วิธีที่ Terrace Martin เพิ่มการเข้าถึงของตนเองในช่วงที่เตรียมออกผลงานใหม่
นักดนตรี "เจ้าผลงาน" จากแอลเอพร้อมด้วยทีมงานหันมาใช้ Discovery Mode เพื่อโปรโมตโปรไฟล์ศิลปินและดึงดูดแฟนเพลงหน้าใหม่ๆ ให้มาฟังซิงเกิลล่าสุด
เป็นเรื่องที่รู้กันในกลุ่ม ว่าถ้าคุณเป็นแฟนของแนวเพลงลูกผสมระหว่างฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และแจ๊ส คุณก็คงจะชื่นชอบเพลงของ Terrace Martin รวมถึงผลงานจำนวนมากที่เป็นการร่วมงานกับศิลปินรายอื่นๆ ด้วย แต่ถึงชื่อของศิลปินคนนี้จะไม่คุ้นหู แต่ท่วงทำนองเพลงศิลปินรายนี้ก็ต้องสะกิดใจของคุณได้อย่างแน่นอน
Martin เป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และนักดนตรีมากความสามารถชาวลอสแอนเจลิสที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึงสามครั้ง เขาเคยฝากฝีไม้ลายมือผ่านผลงานที่สร้างสรรค์ให้กับศิลปินชื่อดังอนาคตสดใสหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Kendrick Lamar, Kamasi Washington, Ty Dolla $ign, YG, Robert Glasper, Snoop Dogg, Leon Bridges และอีกมากมาย นอกจากนี้ Martin ยังได้ปล่อยผลงานส่วนตัวในฐานะศิลปินเดี่ยวและโปรเจ็กต์ร่วมออกมาอย่างต่อเนื่องผ่านค่ายเพลงของตัวเองที่ชื่อว่า Sounds of Crenshaw ซึ่งได้รับคำชมล้นหลามและทลายเส้นแบ่งระหว่างแนวเพลงทั้งสามลง Dinner Party คือ EP จาก Martin และผองเพื่อนที่ประกอบไปด้วย Washington, Glasper และโปรดิวเซอร์ 9th Wonder ซึ่งร่วมกันก่อตั้งสุดยอดวงดนตรีขึ้นในชื่อเดียวกัน และได้ปล่อยซิงเกิลที่มียอดสตรีมสูงสุดอย่าง "Freeze Tag (feat. Phoelix)" ออกมา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการตั้งคำถามถึงการตัดสินคนจากเชื้อชาติและความอยุติธรรมในสังคม เคล้าคลอไปกับท่วงทำนองที่ยังคงความละมุนละไม "ผมพยายามส่งสารถึงแฟนเพลงที่เข้าใจว่าโลกต้องการความรักความเมตตามากกว่านี้ และดนตรีก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นจริงได้" Martin อธิบาย
หากเราเรียกศิลปินที่ผลิตผลงานออกมาได้ในจำนวนมากๆ ว่า "เจ้าผลงาน" ก็คงกล่าวได้ว่าศิลปินในยุคเดียวกันที่ถือเป็น "เจ้าผลงาน" เทียบได้กับ Martin นั้นมีอยู่เพียงไม่กี่คน เพราะนับแค่ปี 2020 อย่างเดียว Martin ก็แทบจะมีผลงานออกมาเกือบตลอดทุกเดือนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น EP, การแสดงสด หรือสตูดิโออัลบั้ม เช่น Terrace Martin’s Gray Area Live at the JammJam (ม.ค.), Sinthesize (ก.พ.), Soul Juice (มี.ค.), Conscious Conversations (เม.ย.), Impedance (พ.ค.) ซึ่งเป็น EP ที่ทำร่วมกับแรปเปอร์ชาวชิคาโก Ric Wilson, They Call Me Disco (พ.ค.), โปรเจ็กต์ Dinner Party ที่มีอัลบั้มในชื่อเดียวกัน (ก.ค.), Dinner Party: Dessert (ต.ค.) ซึ่งเป็นการนำโปรเจ็กต์การรวมตัวของสุดยอดนักดนตรีก่อนหน้านี้มาเรียบเรียงใหม่ ตบท้ายด้วย Village Days (ธ.ค.)
ปรัชญาการทำงานผสานกับความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขอบเขตและความเก่งกาจ ทำให้ Martin เป็นศิลปินที่มีผลงานทั้งลึกซึ้งและกว้างขวางในคราวเดียวกัน Spencer Smith จากทีมผู้บริหารของ Martin ที่ Crush Music เล่าให้ฟังว่า "เวลาสร้างสรรค์งานเพลง Martin ไม่ได้มัวมานั่งคิดว่า 'ผลงานนั้นจะเป็นไปในทิศทางที่ทีมการตลาดวางไว้ให้หรือเปล่า' บางครั้งเราเลยได้ผลงานใหม่ออกมาเป็นโปรเจ็กต์เพลงบรรเลงแนวซินธ์ 8 เพลง สำหรับคนอื่น [ศิลปินรายอื่น] ที่เคร่งครัดกับการสร้างโปรไฟล์และต้องการประสบความสำเร็จในวงการมากๆ ก็คงมองว่า [ผลงานประเภท] นั้นไม่ใช่ผลงานที่ควรจะทำแน่ๆ แต่ไม่ใช่กับ Terrace เขาเป็นคนแบบนี้แหละ"
จากผลงานการผลิตและการร่วมงานกับศิลปินอื่นๆ ที่แพร่หลายและประสบความสำเร็จสูง ความท้าทายสำหรับ Martin กับทีมผู้จัดจำหน่ายที่ Crush Music และ EMPIRE คือการทำให้ชื่อของเขาเป็นที่จดจำ พร้อมกับเปลี่ยนผู้ฟังทั่วๆ ไปให้กลายเป็นแฟนเพลงที่มีส่วนร่วมกับ Terrace Martin ในระดับสูง แม้ผลงานเพลงของ Martin จะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกใจผู้ฟัง อย่างที่เห็นได้จากการร่วมงานกับศิลปินแถวหน้าของวงการและโปรเจ็กต์ที่เขามีส่วนร่วมซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่การจะก้าวไปให้ไกลกว่าเดิม ทีมงานจำเป็นต้องโปรโมตผลงานของ Martin ให้ผู้ฟังได้รู้จักมากขึ้น จุดนี้เองที่ Discovery Mode เครื่องมือของ Spotify for Artists (ซึ่งยังอยู่ในช่วงทดสอบระยะแรก) จะเข้ามาช่วยเหลือศิลปิน โดยการขยายขอบเขตการเข้าถึงเพลงของศิลปินรายนั้นๆ ไปยังกลุ่มผู้ฟังที่แสดงออกว่าสนใจเพลงในแนวเดียวกัน
เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา Martin ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ "People Get Ready" จาก EP ที่มีชื่อว่า I Can't Breathe / Music for the Movement ของค่าย Hollywood Records โดยมี Glasper และนักร้อง Alex Isley เป็นศิลปินรับเชิญ เพลงนี้เป็นการนำเพลงของวง The Impressions ที่ใช้ในการเรียกร้องสิทธิพลเมืองเมื่อปี 1965 มาปัดฝุ่นใหม่ โดยมีการเคลื่อนไหวเพื่อทวงความยุติธรรมจากสังคมในปี 2020 เป็นแรงบันดาลใจ เพลงที่ผสมผสานหลากหลายแนวและมีเนื้อหาแสดงจิตสำนึกต่อสังคมอย่างแทร็กนี้เป็นแนวถนัดของ Martin อยู่แล้ว ทีมงานจึงถือโอกาสนำ Discovery Mode มาใช้โปรโมตผลงานใหม่และเชิญชวนให้ผู้ฟังเข้าไปฟังเพลงอื่นๆ ในแคตตาล็อกของ Martin ด้วยเลย
ทีมงานของ Martin มีกลยุทธ์ในการปรับใช้เครื่องมือนี้กับเพลง "People Get Ready" ผลงานใหม่ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ด้วยการเลือกเพลงเก่าๆ จากแคตตาล็อกของ Martin มานำเสนอร่วมด้วยใน Discovery Mode เพื่อทดสอบประสิทธิผล จากนั้น Martin กับทีมงานก็พบว่ายอดการเข้าถึง (ผู้ฟังหน้าใหม่ๆ) พุ่งขึ้นถึง 36.8% บน Spotify จากการใช้ Discovery Mode แนะนำแทร็กเหล่านั้นให้ผู้ฟังตามรสนิยมการฟังเพลงผ่านทาง Discovery Mode "อะไรก็ตามที่ทำให้ผู้ฟัง [เกือบ] 40% รู้จักเพลงของเรามากขึ้นล้วนมีค่าทั้งนั้น การปล่อยให้เสียงเพลงนำทางและสื่อสารกับผู้ฟังด้วยตัวของมันเองคือสิ่งที่เป็นธรรมชาติและจริงใจที่สุดแล้ว โดยเฉพาะกับศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีความหลากหลายอย่าง Terrace เพลงถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ" Smith กล่าว
การหลั่งไหลเข้ามาของผู้ฟังหน้าใหม่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด Drones อัลบั้มใหม่จาก Martin ที่กำลังจะปล่อยออกมาในปลายปีนี้ ซึ่ง Daniel Kruchkow ผู้บริหารฝ่ายการตลาดและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัลของ Crush Music เรียกว่าเป็น "ผลงานชิ้นเอก" Kruchkow กล่าวว่า "เราจะลุย [โปรเจ็กต์] นั้นต่อ เพราะตอนนี้ทุกอย่างเป็นใจให้แล้ว ความสำเร็จของ Discovery Mode ช่วยให้เป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนฐานแฟนเพลงบน Spotify สำเร็จเป็นจริงขึ้นมาได้" Terrace Martin ยังคงสร้างสรรค์ผลงานเพลงคุณภาพสูงและใช้ Discovery Mode เพื่อดึงดูดผู้ฟังต่อไป และชื่อของศิลปินคนนี้จะต้องคุ้นหูไม่แพ้ท่วงทำนองของเขาอย่างแน่นอน
Spotify for Artists ช่วยคุณพัฒนาฐานแฟนที่คุณต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย