คนในวงการฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน, การเผยแพร่, การประชาสัมพันธ์, การจอง และอื่นๆ จาก BMI, Warner Chappell, LVRN และ Nvak Collective มาร่วมแชร์ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่สำคัญในซีรีส์ Song Start ของเรา
ศิลปิน โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงหลายรายก้าวเข้ามาในวงการเพลงเพราะมีใจรักด้านการสร้างสรรค์ แต่มักจะไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อพบกับความเป็นจริงที่ซับซ้อนของวงการ แม้ว่าหลายแง่มุมของธุรกิจนี้อาจชวนสับสน แต่ก็มีขั้นตอนที่ชัดเจนให้เหล่าครีเอทีฟนำไปใช้ทำความเข้าใจการทำงานร่วมกันระหว่างตนเองกับผู้คนรอบข้าง
ในซีรีส์ Song Start เพื่อการศึกษาของเรา Spotify ได้พาไปพูดคุยกับคนในวงการ เช่น Samantha Cox จาก BMI, Sam Sklar จาก Warner Chappell, Justice Baiden จาก LVRN, Alex Salibian จาก Nvak Collective และ Tamar Kaprelian จาก Song Start เอง ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คนได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของวงการ โดยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกชวนตื่นตาเกี่ยวกับสิ่งที่นักดนตรีจำเป็นต้องรู้ เมื่อเดินบนเส้นทางอาชีพศิลปิน
Kaprelian นำเสนอขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมที่ศิลปินหรือนักแต่งเพลงควรทำเมื่อต้องสร้างทีมและอาชีพ โดยยก Rosa Linn นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์เป็นตัวอย่าง เธอเล่าถึงเส้นทางอาชีพของ Rosa Linn ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่แต่งเพลงให้กับศิลปินรายอื่นไปจนกระทั่งเซ็นสัญญาเผยแพร่ผลงาน เปิดตัวในฐานะศิลปิน เซ็นสัญญากับค่ายเพลง เข้าห้องอัด ออกอัลบั้ม โปรโมตเพลง ไปจนถึงการออกทัวร์ ระหว่างทาง เธอได้สัมผัสกับผู้คนและทีมงานหลายสิบชีวิตที่มีส่วนในความสำเร็จของ Rosa ในฐานะศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น
- ทนายความในธุรกิจบันเทิง
- ผู้จัดการ
- ผู้จัดการธุรกิจ
- บริษัทผู้เผยแพร่
- ฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน
- บริษัทจัดจำหน่าย/ค่ายเพลง
- ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์
- ทีมประชาสัมพันธ์
- ผู้จัดการโซเชียลมีเดีย
- ฝ่ายวิทยุและวิจัย
- ตัวแทนจองตั๋ว
- ผู้จัดการทัวร์
- ผู้กำกับเพลง
- วิศวกรเสียง
“การหาทีมงานที่เหมาะสม คนที่คอยให้การสนับสนุนคุณจริงๆ ทั้งทางจิตใจ อารมณ์ และร่างกาย ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในระยะเวลาที่นานขึ้น นี่ไม่ใช่แนวทางเดียวที่เหมาะกับทุกคน มีหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าศิลปินคือศูนย์กลางของเครือข่ายผู้คนนี้ ซึ่ง Rosa เองต้องการให้ทีมของเธอประสบความสำเร็จ เพราะไม่มีวงการเพลงใดที่ปราศจากเสียงเพลง และไม่มีเพลงใดที่ปราศจากครีเอทีฟที่รังสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และศิลปิน” Kaprelian กล่าว
ดูวิดีโอ "ใครเป็นใครในวงการเพลง" ของ Kaprelian จาก Song Start เพื่อเรียนรู้หน้าที่ของบุคคลและทีมต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณเป็นศิลปินอาชีพได้
Alex Salibian ผู้บริหารของ Nvak Collective เน้นย้ำถึงประเด็นนี้ร่วมกับ Kaprelian โดยบอกให้ศิลปินลองคิดว่าตัวเองเป็น "CEO" ของบริษัทตนเอง โดยกล่าวว่า "คุณมีทีมงานทั้งหมดห้อมล้อมและต้องดำเนินงานเหมือนเป็นบริษัท โดยมีพันธกิจที่หนักแน่น ("เหตุผลที่ทำธุรกิจ") และดำเนินงานโดยยึดสิ่งนั้นเป็นหลัก สื่อสารเป้าหมายและวิสัยทัศน์[ของคุณ]อย่างชัดเจนสม่ำเสมอ และต้องทำให้แน่ใจว่าทีมงาน[ของคุณ]ทำตามเป้าหมายนั้น"
Salibian ยอมรับว่าแม้กระทั่งตัวเขาเองก็เคย "ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับกระบวนการที่เกิดขึ้นหลังจากอัดเสียงเสร็จแล้วส่งให้กับค่ายเพลง" โดยบอกว่าตน "ต้องใช้เวลาสักพักจึงจะรู้เกี่ยวกับการทำงานอย่างหนักทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น"
Justice Baiden จาก LVRN เองก็เห็นด้วย แต่ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการมีวิสัยทัศน์ที่สมบูรณ์พร้อมอาจต้องใช้เวลาสั่งสม ระหว่างนั้นการพัฒนาศิลปินคือกุญแจสำคัญ "การพัฒนาศิลปินไม่ใช่เรื่องสนุก การต้องอยู่ที่จุดนั้นนานหลายปี มีแต่เรื่องที่ต้องตัดสินใจเต็มไปหมด ทั้งเรื่องตัวตน เลือกแนวเพลงว่าควรเป็นอย่างไร ศิลปินต้องยิ้มแบบไหนในการให้สัมภาษณ์ แต่มันจำเป็นใช่ไหมล่ะ ผมรู้สึกว่าเมื่อคุณรู้เป้าหมายในชีวิตแล้ว ทุกอย่างจะง่ายขึ้น"
แม้การเข้าถึงเครื่องมือสร้างสรรค์ โซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มการเผยแพร่ที่ง่ายขึ้นอาจทำให้ศิลปินสามารถทำอะไรเพื่อตัวเองได้มากกว่าเดิม และประสบความสำเร็จได้โดยไม่ง้อการทำสัญญากับค่ายเพลงแบบเดิมๆ แต่ Baiden กล่าวว่าศิลปินยังคงจำเป็นต้องรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ และเตรียมพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับมัน
"ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเจ้าของกิจการได้ บางคนอาจเหมาะกับการแค่ทำตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้น คุณต้องเข้าใจว่าในฐานะศิลปินหรือในฐานะผู้บริหาร เส้นทางอิสระหมายความว่าคุณต้องมีเครื่องจักรที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี คุณต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าธุรกิจเป็นอย่างไร และต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับวิธีก่อตั้งบริษัทด้วยเช่นกัน"
เมื่อคุณมีเพลงแล้ว การรู้วิธีจัดการกับการเผยแพร่ถือเป็นกุญแจสำคัญ Sam Sklar จากฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปินที่ Warner Chappell Music Publishing ได้สรุปบทบาทหน้าที่หลักของ PRO (องค์กรด้านลิขสิทธิ์ทางการแสดง) และผู้เผยแพร่ไว้อย่างเป็นประโยชน์ โดยกล่าวว่า "การเผยแพร่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้และการโปรโมตในส่วนของงานประพันธ์ โดย [PRO] จะเก็บค่าลิขสิทธิ์ในนามของนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ศิลปิน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับค่าลิขสิทธิ์จากงานประพันธ์ของตนเอง"
แม้ว่าข้อตกลงในการเผยแพร่จะช่วยให้ศิลปินและนักแต่งเพลงเพิ่มมูลค่างานประพันธ์ของตนเองได้สูงที่สุดในอนาคต แต่พวกเขาก็ควรเริ่มจัดการกับแหล่งรายได้ให้เข้าที่เข้าทางตั้งแต่ตอนนี้เลย "หากคุณทำงานคนเดียว เผยแพร่ผลงานด้วยตัวเอง และยังไม่มีข้อตกลงในการเผยแพร่กับใคร คุณควรศึกษาเรื่องค่าลิขสิทธิ์ประเภทต่างๆ และองค์กรต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ด้วย" เธอกล่าว
Samantha Cox จาก BMI ซึ่งเป็นองค์กร PRO ในสหรัฐฯ แนะนำให้ศิลปินรีบเรียนรู้เกี่ยวกับหมายเลข IPI ของตน ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลซึ่งกำหนดให้กับชื่อตามกฎหมาย ชื่อที่ใช้แสดง และอื่นๆ ของแต่ละคน หมายเลขเหล่านี้จะช่วยให้ PRO สามารถระบุได้ว่าเก็บค่าลิขสิทธิ์ในนามของใคร โดยเฉพาะหมายเลขที่ฝังอยู่ในข้อมูลเมตาของเพลง และจะช่วยประสานศิลปินเข้ากับแหล่งรายได้ที่มีการเรียกเก็บในนามของตน เธอยังเน้นย้ำด้วยว่าหากศิลปินอยากได้รับเงิน การทำความคุ้นเคยกับ PRO ประเภทต่างๆ และแหล่งรายได้ต่างๆ ที่ PRO เรียกเก็บก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน
Cox ปิดท้ายด้วยการให้กำลังใจศิลปินว่าอย่าท้อแท้ แต่ให้ติดอาวุธตัวเองด้วยความรู้เกี่ยวกับการทำงานในวงการ เพื่อให้เวลาและการสร้างสรรค์ผลงานที่ลงทุนลงแรงไปสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ถ้ายืนหยัดอยู่ในธุรกิจนี้ได้ คุณก็จะประสบความสำเร็จ วงการนี้อาจไม่ใช่อย่างที่ฝัน คุณอาจไม่ได้เป็นเหมือนกับ Beyoncé หรือ Drake แต่คุณก็กำลังทำเงินจากธุรกิจเพลงและทำได้ดีเสียด้วย เพียงแต่ต้องใช้เวลา ความอดทน ความทุ่มเท แรงผลักดัน และต้องมีใจรักเท่านั้นเอง" เธอกล่าว
ฟังเพิ่มเติมจาก Alex Salibian และ Justice Baiden ในพอดแคสต์ตอน "วิธีใหม่ๆ ของการทำงานในวงการเพลง" หรือฟังตอนของ Samantha Cox และ Sam Sklar เพื่อเรียนรู้ "ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ PRO และผู้เผยแพร่"