ศิลปินหน้าใหม่ Unusual Demont, Julia Wolf, Wallice และ EKKSTACY เข้าร่วมโปรแกรมการตลาดสำหรับศิลปินอิสระ Fresh Finds เมื่อผลงาน Spotify Singles ปรากฏสู่สายตาชาวโลก ก็ได้เวลาที่เราจะเชื้อเชิญศิลปินหน้าใหม่อนาคตสดใสเหล่านี้มาพูดคุยเกี่ยวกับเพลงใหม่ ประสบการณ์ในการเข้าร่วมโปรแกรม และสิ่งที่ได้เรียนรู้ตลอดกระบวนการทำงาน
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว Spotify ได้เปิดตัวเพลย์ลิสต์ Fresh Finds เพื่อเป็นพื้นที่ให้ศิลปินอิสระซึ่งกำลังก้าวไปบนเส้นทางอาชีพสายดนตรีได้ฉายศักยภาพอันเหลือเชื่อออกมา ในช่วงเวลานั้น เพลย์ลิสต์ที่สร้างขึ้นเพื่อการค้นพบนี้ช่วยให้ศิลปินที่เป็นกระแสอย่างรวดเร็ว เช่น Clairo, Pink Sweat$, 100 gecs และ Omar Apollo เติบโตอย่างมั่นคงจนถึงทุกวันนี้ พร้อมกับที่ทำให้ตัวเพลย์ลิสต์เองเป็นหนึ่งในจุดหมายการค้นพบชั้นนำสำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบบทเพลงที่มีความล้ำสมัย
ในปี 2021 นี้ Fresh Finds พัฒนาขึ้นทั้งในด้านวิสัยทัศน์และระบบภายในโดยเพิ่มเพลย์ลิสต์เฉพาะสำหรับแนวเพลงเก้าแนวเข้ามา พร้อมเพลงใหม่ล่าสุดตั้งแต่แนวฮิปฮอปไปจนถึงดนตรีแนวทดลอง อีกทั้งยังมีเวอร์ชันสำหรับภูมิภาคต่างๆ 13 แบบทั่วโลกรวมถึงบราซิล เกาหลี และตุรกี
Fresh Finds ไม่เพียงแค่สร้างเพลย์ลิสต์เพื่อให้ศิลปินอินดี้ได้อวดผลงานเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนศิลปินผ่านการให้ความรู้ การทำการตลาด และเครื่องมือ Spotify for Artists ด้วย Spotify ได้พัฒนา Fresh Finds เมื่อเดือนที่ผ่านมาโดยเพิ่มโปรแกรมใหม่สำหรับศิลปินอิสระ เพื่อให้ศิลปินหน้าใหม่สี่รายได้มีโอกาสเรียนรู้และสร้างผลงานด้วยชุดเครื่องมือและทรัพยากรที่ Spotify จัดหาไว้ให้ ในช่วงระยะเวลาหกถึงแปดสัปดาห์ ศิลปินอย่าง EKKSTACY, Unusual Demont, Wallice และ Julia Wolf ได้รับสิทธิ์ในการเข้ารับคำปรึกษาแบบตัวต่อตัว มาสเตอร์คลาสเกี่ยวกับเครื่องมือ Spotify for Artists ที่ปรับมาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เช่น Canvas และ Marquee การสนับสนุนด้านการตลาดบนโซเชียลมีเดีย การโปรโมตทั้งนอกและในแพลตฟอร์ม ตลอดจนโอกาสในการทำงานร่วมกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ผ่านทีมงานการเผยแพร่และนักแต่งเพลงของ Spotify ซึ่งเมื่อจบโปรแกรม ผลงานของศิลปิน นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ทั้งสี่กลุ่มนี้ก็ปรากฏออกมาในรูปแบบผลงาน Spotify Singles ใหม่เอี่ยมสี่รายการ
วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับผลงาน Spotify Singles ของศิลปินทั้งสี่รายดังกล่าวในบทสนทนาของเรากับ Wallice, Unusual Demont, EKKSTACY และ Julia Wolf เพื่อให้ความกระจ่างเกี่ยวกับปรัชญาการสร้างสรรค์และกระบวนการทำงาน รวมทั้งค้นพบสิ่งที่ศิลปินทั้งสี่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดเพลงและการพัฒนาฐานแฟนๆ ของตนด้วยเครื่องมือ Spotify for Artists
Unusual Demont
อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Spotify Single ที่มีชื่อว่า “hey?” ของคุณ เมื่อฟังเนื้อเพลงแล้วเหมือนกับว่ามีคนขอร่วมงานกับคุณเยอะมากเลยใช่ไหม
ใช่ครับ นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง มีศิลปินมากมายติดต่อผมมาหลังจากที่ผมปล่อย [ซิงเกิลสุดฮิต] อย่าง “Amber” แล้วพูดกับผมประมาณว่า “เฮ้เพื่อน ฉันชอบสไตล์ของนายมากเลย มาทำเพลงด้วยกันเถอะ” แต่ผมก็แบบว่าผมมีผลงานแค่เพลงเดียวเอง แล้วคุณจะมารู้สไตล์ของผมได้ยังไง มีหลายครั้งที่หลายๆ คนชอบเพลงของผมจริงๆ แต่ที่เจอบ่อยกว่าคือเห็นได้ชัดเลยว่าบางคนดูแค่ยอดคนฟังแล้วตัดสินใจติดต่อผมมา โดยไม่ได้ชื่นชอบเพลงของผมจริงๆ รวมๆ แล้วเนื้อหาของเพลง "hey!" เป็นเหมือนการระบายความกลัวและความผิดหวังทั้งหมดที่ผมรู้สึกในขณะที่เขียนเพลงนี้ออกมา ตั้งแต่การเป็นคนผิวดำในอเมริกาไปจนถึงความขัดแย้งที่ศิลปินหลายคนต้องเผชิญในการสร้างรายได้จากรูปแบบผลงานของตน ผมแค่อยากจะระบายมันออกมาให้หมด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไม่หลงระเริงก็คือการที่ผมทำให้ครอบครัวภูมิใจ ดังนั้น “อย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว…”
การเล่าเรื่องและมุมมองในเพลงของคุณมีความสำคัญแค่ไหน และเพราะอะไร
ผมยังคงพยายามพัฒนาการเล่าเรื่อง พยายามไปให้ถึงระดับเดียวกับที่ Frank [Ocean] ทำใน Channel Orange หรือที่ [Childish] Gambino ทำใน Because The Internet แต่ผมก็ได้พบว่ามุมมองในการเล่าเรื่องเองก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งดีเหมือนกัน ถ้าไม่ทำให้เรื่องราวน่าสนใจสำหรับผู้ฟัง… คุณก็ยังทำให้เรื่องราวน่าสนใจสำหรับตัวเองได้ การเขียนเพลงจากมุมมองที่ไม่ใช่ของตัวคุณเองเป็นวิธีที่ดีมากๆ ในการค้นพบความรู้สึกใหม่ๆ สมมติว่าความสัมพันธ์สิ้นสุดลงและคุณเป็นคนที่ถูกบอกเลิก ฟังดูน่าเบื่อใช่ไหม แต่หากคุณเขียนจากมุมมองของคนที่บอกเลิกคุณ คุณต้องหาคำตอบด้วยการครุ่นคิดแทบทุกอย่างว่าคุณทำอะไรผิดไป (ซึ่งเหตุผลบางครั้งก็คือคนเรามันห่วยแตกแค่นั้นเอง)
Spotify Single: “hey” โดย Unusual Demont โปรดิวซ์โดย The Idiot
อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่คุณได้เรียนรู้จาก Spotify Masterclass และประสบการณ์โดยรวมทั่วไป
เวลาสร้างและนำเสนอผลงาน เป้าหมายของคนเราไม่ควรเป็นการทำให้ผลงานนั้นๆ ได้อยู่ในเพลย์ลิสต์ แต่ควรเป็นการตั้งใจทำเพลงดีๆ ออกมาก่อนที่จะคิดไปถึงเรื่องอื่น
การเข้าร่วมโปรแกรม Fresh Finds มีความหมายต่อคุณอย่างไร
เป็นอะไรที่เจ๋งมากที่ได้รู้ว่าเพลงที่ผมทำในห้องใต้ดินดีพอที่จะไปถึงระดับนี้ นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าช่วงเวลาหลายปีที่ผมอดทนทำมาอย่างเงียบๆ คอยบอกตัวเองว่าทุกอย่างจะคุ้มค่านั้นถูกต้องแล้ว
คุณมีอะไรแนะนำศิลปินหน้าใหม่คนอื่นๆ ไหม
เป้าหมายที่คุณควรยึดถือเหนือสิ่งอื่นใดคือการตั้งใจทำเพลงดีๆ อย่างที่ชอบออกมา การทำเพลงเพื่อให้เข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์หรือเข้ากับสิ่งที่ผู้คนสนใจ ณ ตอนนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่นั่นไม่ใช่วิธีในการสร้างผลงานเพลงที่จะอยู่เหนือกาลเวลา อย่ากลัวที่จะเพิ่มสิ่งแปลกใหม่ลงในเพลง แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่คุณรู้สึกว่าคุณเข้าใจอยู่คนเดียวก็ตาม เพราะทั้งหมดที่เพลงนั้นๆ ต้องการคือคนเพียงคนเดียวที่เข้าใจ แล้วคุณก็จะดังเป็นพลุแตกโดยไม่ทันรู้ตัว แล้วก็อย่ากลัวที่จะต้องปลีกตัวออกมาสักพักเพื่อฝึกฝนตัวเองให้เป็นศิลปินอย่างแท้จริง การได้ร่วมงานกับศิลปินที่โด่งดังกว่าคุณเป็นเรื่องดี เพราะคุณจะเป็นที่รู้จักและได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็ว แต่การทำงานร่วมกันควรก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ต้องแน่ใจว่าคุณรู้จักตัวเองและเพลงของคุณดี ก่อนที่จะพยายามประกอบชิ้นส่วนที่ไม่พอดีเข้าด้วยกัน
Julia Wolf
“RBF: Part 1” ทำให้เรานึกถึงผลงานของศิลปินรายนี้ที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดบนท้องถนน คุณถึงกับมีเนื้อเพลงวรรคหนึ่งเป็นภาษาอิตาลีที่แปลได้ว่า “อย่ามาบอกให้ฉันยิ้มมากกว่านี้” ช่วยบอกเราเกี่ยวกับความตั้งใจของคุณในการเขียนเพลงนี้และสารที่ต้องการสื่อในเพลงหน่อย
มีคนบอกว่าฉัน “เป็นคนหน้าเหวี่ยง“ ซึ่งฉันเคยเก็บไปคิดมากคนเดียว แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าหน้าเหวี่ยงไม่ใช่เรื่องแย่ หลายปีที่ผ่านมา ฉันได้เรียนรู้ว่าการเป็นคนดีเกินไปอาจหมายถึงการทำให้คนจ้องจะเอาเปรียบเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโตขึ้น ฉันก็ยอมให้คนเอาเปรียบมากเกินไป แต่พอถึงจุดหนึ่ง การมั่นใจในตัวเองและรวบรวมความกล้าที่จะพูดปฏิเสธหรือทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองก็ทำให้คุณกลายเป็น “Bitch” ได้เช่นกัน ฉันมองว่าหากมีคนใช้คำนั้นเพื่อกดผู้หญิงให้ต่ำ ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ช่วยให้เรารู้ว่าคนๆ นั้นมีนิสัยใจคออย่างไร แต่ในทางกลับกัน คำนั้นก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการชมว่าฉันกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ฉันแค่ต้องการจะเน้นให้เห็นถึงด้านที่เป็นพลังบวกในเรื่องราวเหล่านี้
ภาพมีความสำคัญต่อคุณแค่ไหน คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับ Canvas ในฐานะเครื่องมือสำหรับการแสดงออกด้วยภาพ คุณต้องการขยายขอบเขตความเป็นไปได้ด้วย Canvas อย่างไร
ภาพมีความสำคัญพอๆ กับดนตรี ภาพทำให้โลกที่ฉันต้องการสร้างและแชร์กับผู้คนเป็นจริงขึ้นมาได้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันยืนกรานที่จะสร้างสรรค์ภาพเหล่านั้นด้วยตัวเอง ภาพเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของฉันและเป็นวิธีที่เป็นรูปธรรมในการทำให้ผู้คนเข้าใจสารที่จะสื่อได้ดีขึ้น จึงเป็นธรรมดาที่ฉันจะจดจ่อกับการทำ Canvas มาก ฉันชอบที่สามารถเปลี่ยน Canvas ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ต้องยึดติดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ฉันสร้าง Canvas จากวิดีโอที่ถ่ายทำด้วยตัวเอง คอลเลกชันรูปภาพ และอาร์ตเวิร์กที่เป็นภาพเคลื่อนไหว เป็นการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด ฉันสามารถขยายขอบเขตได้โดยการแนะนำให้ผู้คนเข้าไปดู Canvas ใหม่ทุกสัปดาห์หรือให้แฟนๆ มีส่วนร่วมโดยการส่งรูปให้ฉันใส่เข้าไปใน Canvas
Spotify Single: “RBF: Part 1” โดย Julia Wolf โปรดิวซ์โดย Jackson Foote
คุณเป็นศิลปิน แต่ประสบการณ์นี้สอนอะไรคุณบ้างเกี่ยวกับการทำการตลาดเพลงและเข้าถึงผู้ฟังได้มากขึ้น
เรามักจะมองว่า “การตลาด“ สำหรับการปล่อยผลงานเพลงเป็นช่องทางที่มีความสร้างสรรค์ในตัวเอง และประสบการณ์นี้ตอกย้ำฉันถึงความเชื่อนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องของการคิดว่าจะทำอย่างนั้นหรืออย่างนี้ดีเพื่อให้คนเข้ามาฟังเพลงของฉันมากขึ้น แต่เป็นการคิดหาวิธีที่มีศิลปะและสร้างสรรค์ในการนำเสนอวิสัยทัศน์และสารที่ฉันต้องการสื่อให้โลกได้รับรู้มากกว่า และหวังว่าการทำเช่นนั้นจะช่วยให้ผลงานศิลปะชิ้นดังกล่าวคงอยู่ในใจผู้คน รวมทั้งงอกงามและแพร่หลายออกไปได้ด้วยตัวของมันเอง
ช่วยอธิบายประสบการณ์ในการสร้าง Spotify Single ของคุณหน่อยได้ไหม ว่าเป็นอย่างไร และแตกต่างจากกระบวนการสร้างสรรค์ตามปกติของคุณอย่างไร
ประสบการณ์นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะฉันอยากจะเขียนเกี่ยวกับการ “Resting Bitch Face” มาสักพักแล้ว ฉันทำเพลงที่มีชื่อนี้เสร็จเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว แต่ฉันยังรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป ก็เลยไม่ยอมปล่อยเพลงนี้ออกมา Jackson Foote ที่รู้เรื่องเพลงนี้ยืนยันว่าเราควรลองรื้อฟื้นมันขึ้นมา เพราะเขาคิดว่าเพลงนี้มีบางสิ่งที่พิเศษอยู่ ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ย้อนกลับไปแก้ไข และตอนนี้ก็ชอบผลลัพธ์ที่ได้มากเลย เราตัดสินใจเลือกเอาส่วนแซมเพิลมาเป็นเสียงหลักสำหรับท่อนฮุคซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับฉัน และตั้งใจเน้นไปที่กรูฟเพื่อดึงเอากลิ่นไอจากเพลงแนวฮิปฮอปออกมาให้มากยิ่งขึ้น
การเข้าร่วมโปรแกรม Fresh Finds มีความหมายต่อคุณอย่างไร
ฉันมีความสุขจนอธิบายไม่ถูกตอนที่ได้รับโทรศัพท์ครั้งแรก การที่ผลงานเพลงและสารที่เราต้องการสื่อได้ปรากฏสู่สายตาผู้ฟังเป็นสิ่งที่มีความหมายกับศิลปินอิสระคนหนึ่งอย่างใหญ่หลวง ฉันรู้สึกซาบซึ้งยิ่งกว่าอะไรดีที่ได้ร่วมงานกับ Spotify และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ Spotify เชื่อมั่นในตัวฉันค่ะ
Wallice
คุณเป็นนักแต่งเพลงซึ่งถ่ายทอดเนื้อเพลงที่มีความหมายและมีสีสันเสมอ ช่วยเล่าเกี่ยวกับ “Nothing Scares Me” และแรงบันดาลใจเบื้องหลังเนื้อเพลงนี้ให้เราฟังหน่อย
สำหรับฉันแล้วเนื้อเพลงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเพลง ในเพลงนี้ ฉันเริ่มต้นด้วยแนวคิดเกี่ยวกับความเฉยชากับชีวิตในแต่ละวัน และการที่เอาแต่คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและวันพรุ่งนี้มากกว่าที่จะอยู่กับปัจจุบัน “Nothing Scares Me” เป็นรูปแบบของการตระหนักถึงความเฉยชานั้นอย่างรุนแรงและใช้วิธีที่สุดโต่งเพื่อให้ตัวเองรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
ในส่วนของ Spotify Single คุณทำงานร่วมกับ marinelli (รวมถึง Ariel Rechtshaid) ซึ่งเป็นทั้งผู้ร่วมงานและเพื่อนของคุณอยู่บ่อยครั้ง ช่วยอธิบายเคมีของคุณในฐานะผู้ร่วมงานและวิธีทำให้เพลงเดินไปในทิศทางเดียวกันเมื่อทำงานร่วมกันให้ฟังหน่อยได้ไหม
ฉันรู้จัก Marinelli มามากกว่าครึ่งชีวิตแล้ว เขาเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน เราจึงทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีทัศนคติและรสนิยมทางดนตรีที่คล้ายคลึงกันมาก และไม่กลัวที่จะพูดในสิ่งที่เรารู้สึกจริงๆ การมี Ariel เข้ามาร่วมด้วยถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ได้มุมมองและสไตล์ที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยทำมาแล้วหลายปี
Spotify Single: “Nothing Scare Me” โดย Wallice โปรดิวซ์โดย marinelli และ Ariel Rechtshaid
ช่วยเล่าเกี่ยวกับเป้าหมายในอาชีพของคุณให้เราฟังหน่อย ความสำเร็จมีความหมายกับคุณในระยะยาวอย่างไร
ฉันคิดว่าความสำเร็จคือการสร้างฐานแฟนๆ ที่หวังว่าจะติดตามกันไปตลอดชีวิตตั้งแต่เริ่มต้น และเติบโตอย่างต่อเนื่องจากจุดนั้น เป้าหมายของฉันไม่ใช่การมีเพลงที่เป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียหรือได้รับความนิยมบนเพลย์ลิสต์เพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่เป็นการที่มีแฟนๆ กลับมาฟังผลงานใหม่อยู่เรื่อยๆ และตื่นเต้นที่จะได้ฟังผลงานถัดไป ฉันหวังว่าตัวเองจะยังคงก้าวไปข้างหน้าในฐานะศิลปิน ได้ร่วมงานกับผู้คนมากขึ้นซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อเพลงของฉันในวันนี้ รวมทั้งได้ทำเพลงที่ฉันชอบต่อไป
การเข้าร่วมโปรแกรม Fresh Finds มีความหมายต่อคุณอย่างไร
ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง โปรแกรมนี้น่าตื่นเต้นมากสำหรับศิลปินอินดี้รุ่นใหม่ ตอนที่เริ่มปล่อยเพลงครั้งแรก ฉันแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจและการเมืองทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับ "การทำเพลง" ดังนั้นการมีแบรนด์ Spotify ที่มีชื่อเสียงและให้บริการไปทั่วโลกคอยสนับสนุนศิลปินตัวเล็กๆ เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการดนตรีอย่างแน่นอน
EKKSTACY
เพลงของคุณไม่ได้จัดหมวดหมู่ง่ายๆ แต่ความรู้สึกของเพลงนั้นเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คุณช่วยพูดถึงความสำคัญ (หรือไม่สำคัญ) ของแนวเพลงสำหรับคุณได้ไหม คุณจะอธิบายลักษณะแนวเพลงของคุณให้คนเข้าใจได้อย่างไร
ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ศิลปินแต่ละคนต้องการแนวเพลงเฉพาะของตัวเอง ผมไม่เคยพยายามอธิบายเพลงของผมให้ใครฟัง แต่ปล่อยให้คนฟังอธิบายแทน
ประสบการณ์ของคุณในการสร้างสรรค์ผลงาน Spotify Single ที่มีชื่อว่า "f*ck everything! " เป็นอย่างไร และแตกต่างจากกระบวนการสร้างสรรค์ตามปกติของคุณบ้างไหม
ปกติแล้วผมเกลียดการทำงานร่วมกับคนอื่น ผมชอบทำทุกอย่างคนเดียว ตอนแรกผมไม่ชอบเพลงนี้เลย แต่เมื่อผมกับ Jonny [Pierce จาก The Drums] ได้ทำงานกันไปเรื่อยๆ ผมก็ตระหนักได้ว่าเพลงที่ดีบางครั้งก็ต้องใช้เวลาในการสร้างสรรค์
Spotify Single: “f ck everything!” โดย EKKSTACY (ฟีเจอร์ริง The Drums) โปรดิวซ์โดย Jonny Pierce จาก The Drums*
การเข้าร่วมโปรแกรม Fresh Finds มีความหมายต่อคุณอย่างไร
เจ๋งมาก ผมรู้สึกขอบคุณและจะไม่มีวันลืม
คุณมีอะไรแนะนำศิลปินหน้าใหม่คนอื่นๆ ไหม
ทำให้ใบหน้าของคุณปรากฏอยู่บนบิลบอร์ดใน Times Square แล้วทุกคนจะรักคุณ