คุณอยากมีพอดแคสต์ของตัวเองหรือไม่

คุณใช้เวลานานในการทำเพลงและทำงานอย่างหนักเพื่อให้แฟนๆ ได้ฟังเพลงของคุณผ่าน Spotify แต่คุณเคยคิดที่จะพูดคุยกับแฟนๆ โดยตรงบ้างหรือเปล่า เข้าร่วม Anchor ในเดือนกุมภาพันธ์ เราได้ต้อนรับบริษัทจัดทำพอดแคสต์เข้าสู่ครอบครัว Spotify อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ฟังและแฟนๆ ได้รับฟังสิ่งที่ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น และนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ในการมีส่วนร่วมกับแฟนให้แก่ศิลปิน

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่พอดแคสต์ได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Forbes การจัดทำพอดแคสต์เติบโตขึ้น 300% นับตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งในแต่ละเดือนมีชาวอเมริกันฟังพอดแคสต์ถึง 73 ล้านคน เราเดาว่าคุณเคยสัมผัสประสบการณ์ความนิยมของพอดแคสต์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งมาแล้ว ไม่ว่าคุณจะติดซีรีส์ ฟังไปสักตอนหรือสองตอน หรือได้ยินคนรอบข้างพูดถึงรายการโปรดรายการใหม่อยู่บ่อยๆ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าพอดแคสต์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และถ้าคุณมีเรื่องจะเล่า ยังไงก็ต้องมีคนอยากฟัง สำหรับผู้ที่พร้อมจะทดลอง เล่นสนุก และลองวิธีใหม่ในการสร้างสัมพันธ์กับแฟนๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณควรเริ่มต้นใช้ Anchor

สร้างแบรนด์ของคุณ

พอดแคสต์เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการกำหนดบุคลิกภาพของคุณในฐานะศิลปินและขยายกลุ่มผู้ฟัง สิ่งแรกที่ควรพิจารณาเมื่อคิดจะเปิดตัวพอดแคสต์คือแบรนด์ของคุณ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นๆ อะไรคือสิ่งที่มีเอกลักษณ์ที่คุณสามารถแชร์ได้ คุณหลงใหล มีความคิดเห็น หรือมีความรู้เกี่ยวกับอะไร นี่คือหัวข้อและการสนทนาที่จะสานสัมพันธ์กับแฟนๆ ปัจจุบันของคุณได้มากที่สุด รวมถึงผู้ฟังใหม่ๆ ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะฟังเพลงของคุณมากขึ้นหลังจากได้ยินสิ่งที่คุณพูดในพอดแคสต์

นักแสดง น้กร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ Mack Wilds กับเพื่อนๆ Mouse Jones และ Flyry ผลิตพอดแคสต์ Guys Next Door ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของศิลปินที่ใช้บุคลิกภาพและความสนใจในวงที่กว้างขึ้น (ในกรณีนี้คือความรักและความสัมพันธ์) เพื่อเข้าถึงชุมชนที่นอกเหนือจากคนที่รู้จักเขาเฉพาะผลงานทางหน้าจอและเพลง

เข้าถึงผู้ฟังของคุณไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน

พอดแคสต์เป็นที่นิยมด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่เพลงเป็นที่นิยม คุณสามารถฟังได้ทุกที่ ทั้งตอนเดินทางไปทำงาน ทำความสะอาดบ้าน พาสุนัขไปเดินเล่น ประสบการณ์การฟังแบบไปได้ทุกที่ ง่ายๆ สบายๆ จะดึงดูดผู้ฟังเข้ามาและเมื่อคุณดึงดูดผู้ฟังได้แล้ว กุญแจสู่ความสำเร็จคือทำให้พวกเขากลับมาฟังมากขึ้น วิธีการหนึ่ง คือ การบันทึกเสียงต้องสม่ำเสมอมากพอที่จะทำให้ผู้ฟังอยากฟังตลอด และไม่มีโอกาสที่จะไปสนใจอย่างอื่น เป็นกลยุทธ์เดียวกับที่ใช้ในกำหนดเวลาออกผลงานเพลงของคุณ แต่พอดแคสต์ช่วยให้คุณมีส่วนร่วมกับผู้ฟังได้โดยตรงมากกว่าในแบบที่คุณไม่สามารถทำกับเพลงได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจพิจารณาที่จะรวบรวมข้อความเสียงจากผู้ฟัง ซึ่งสามารถส่งได้โดยตรงในแอป Anchor หรือจากที่ใดก็ได้ผ่านเครื่องมือข้อความเสียงสำหรับเว็บและเพิ่มลงในตอนต่างๆ

คุณจะทำพอดแคสต์ภายใต้ข้อจำกัดของคุณได้อย่างไร

การจัดทำพอดแคสต์ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนและคุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ หากใช้แอป Anchor ทั้งหมดที่คุณต้องมีก็คือรูปแบบการเล่าเรื่องและไมโครโฟน (สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มาพร้อมไมโครโฟนที่เหมาะสำหรับพอดแคสต์) เมื่อคุณได้กำหนดแบรนด์และมีคอนเซ็ปต์ดีๆ สำหรับพอดแคสต์แล้ว ที่เหลือก็แค่วางรูปแบบ จะเป็นรูปแบบจัดรายการร่วมดีไหม จะมีสัมภาษณ์หรือเปล่า สำหรับนักดนตรี พอดแคสต์อาจทำได้ง่ายๆ อย่างการให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วยเบื้องหลังการทัวร์คอนเสิร์ตหรือการบันทึกเสียง ตัวอย่างเช่น คุณอาจสัมภาษณ์วงเปิด หรือคนในทีมทัวร์บางคนที่อาจมีมุมมองที่น่าทึ่งเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆ ของการแสดง ข้อดีของการผลิตพอดแคสต์คือไม่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะมากมาย คุณสามารถนำไมค์ติดตัวไปได้ทุกที่ และแทรกการบันทึกไว้ในตารางเวลาอันวุ่นวายที่เปลี่ยนไปตามสถานที่ เป็นงานที่มีข้อกำหนดในการผลิตน้อยมาก

Anchor ถือเป็นเครื่องมือที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณติดตามประสิทธิภาพของพอดแคสต์ แชร์ตอนต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย และสร้างรายได้เพิ่มเติมผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาอย่างการสนับสนุนบน Anchor หากต้องการทราบเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งานและใช้ประโยชน์สูงสุดจากเส้นทางของการทำพอดแคสต์ โปรดดูที่บล็อก Anchor