สำหรับหลายๆ คน การฟังเพลงเป็นการเยียวยาและสนับสนุนทางอารมณ์ และหลายครั้งก็เป็นเช่นนั้นสำหรับคนทำเพลง แต่การทำงานเพลงมีความขัดแย้งกันในตัว นั่นคือ ในขณะที่การแชร์ดนตรีกันอาจทำให้คุณมีความสุขอย่างมาก แต่ก็สร้างความกดดันอย่างมากด้วยได้เช่นกัน การออกทัวร์คอนเสิร์ต การเจรจาต่อรองกับความไม่แน่นอนทางการเงิน และการทำงานเป็นเวลานานในเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงทำงานปกติอาจทำให้สุขภาพจิตของคุณเสียได้

แต่สุขภาพจิตก็สำคัญพอๆ กับสุขภาพกาย และแม้ว่าจะไม่ได้รับความสนใจอย่างจริงจังในอุตสาหกรรมดนตรี แต่ก็มีสัญญาณว่าแนวโน้มนี้กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ศิลปินที่มีชื่อเสียงเช่น Shamir, Kate Nash, Benga และ Joanna Gruesome นักร้องนำหญิง Alanna McArdle ได้พูดในที่สาธารณะเกี่ยวกับการต่อสู้กับปัญหาด้านสุขภาพจิต และการออกมาพูดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวภายในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาที่มักจะเชื่อมโยงกัน เช่น การใช้สารเสพติด ภาวะซึมเศร้า และการฆ่าตัวตาย

ขณะที่นักดนตรีหลายคนรอดจากการต่อสู้กับความเจ็บป่วยทางจิตเพื่อมาแชร์เรื่องราวให้ฟัง แต่น่าเสียดายที่เรื่องราวบางเรื่องก็ยังคงจบลงด้วยโศกนาฏกรรม การสูญเสีย DJ Avicii ชาวสวีเดนจากการฆ่าตัวตาย และการเสียชีวิตของ Scott Hutchinson นักร้องนำชายของ Frightened Rabbit หลังจากหายตัวไปในช่วงที่เขามีปัญหาทางอารมณ์ ตามการรายงานของครอบครัว ทั้งสองเรื่องล้วนเป็นเรื่องราวที่น่าเจ็บปวด พวกเขาเน้นย้ำความเร่งด่วนของการปรึกษาหารือเกี่ยวกับสุขภาพจิตและวงการดนตรี และลบการเชื่อมโยงเชิงลบของความเจ็บป่วยทางจิต

สภาพแวดล้อมในวงการธุรกิจดนตรียังคงเป็นที่ท้าทาย แต่ก็มีหลายสิ่งที่ศิลปินสามารถทำได้เพื่อดูแลสุขภาพจิต ต่อไปนี้เป็นแนวคิดง่ายๆ (และข้อใหญ่ๆ สองสามข้อ) ที่จะช่วยให้คุณมีสติและก้าวไปข้างหน้าในขณะที่ทำตามความฝันทางอาชีพของคุณ

ขอความช่วยเหลือ

ต้องตระหนักว่ามีความช่วยเหลือรออยู่ มีโปรแกรมมากมายทั่วสหรัฐอเมริกาและในส่วนอื่นๆ ของโลกให้บริการดูแลสุขภาพจิตฟรีหรือเสียค่าใช้จ่ายต่ำ บางแห่งเช่น Nuçi's Space ในเมืองเอเธนส์ จอร์เจีย มุ่งเน้นไปที่ความต้องการของผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมดนตรีโดยเฉพาะ Nuçi's Space เป็นศูนย์ทรัพยากรที่มุ่งเน้นไปที่การป้องกันการฆ่าตัวตาย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึง Nuçi Phillips นักดนตรีชาวเมืองเอเธนส์ที่ฆ่าตัวตาย The SIMS Foundation ในเมืองออสติน เท็กซัสช่วยเชื่อมโยงนักดนตรีกับแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต และก่อตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงนักดนตรีที่ฆ่าตัวตาย Sims Ellison ร็อกเกอร์ชาวออสติน องค์กรการกุศล MusicCares ของ The Recording Academy ให้ความช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉินสำหรับนักดนตรีที่มีความต้องการด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงการบำบัดทางจิตและการบำบัดอาการเสพติด Help Musicians UK ได้เปิดตัวสายสนับสนุนด้านสุขภาพจิตตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับอุตสาหกรรมดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Music Minds Matter

นักดนตรีที่ทำงานมักไม่มีประกันสุขภาพซึ่งอาจเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการเข้าถึงการบำบัดหากต้องการ Lily Courtney เจ้าหน้าที่การแพทย์ของ The SIMS Foundation กล่าวว่าหลายคนไม่ทราบว่าองค์กรด้านสุขภาพจิตและที่ปรึกษาหลายแห่งจะลดค่าบริการสำหรับผู้ป่วยรายได้น้อยที่ไม่มีประกัน "เมืองส่วนใหญ่มีสิ่งที่เรียกว่าการบำบัดแบบขั้นบันได ทุกคนสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ ลองค้นใน Google ว่า 'บริการบำบัดแบบขั้นบันได' บริการนี้มีอยู่ทั่วทุกแห่งและราคาจะเริ่มตั้งแต่ $5 ต่อเซสชันไปจนถึง $50 ต่อเซสชัน" เธอกล่าว พร้อมเสริมว่าหากคุณอาศัยอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย อาจมีโปรแกรมที่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาด้านจิตวิทยาให้บริการให้คำปรึกษาในราคาลดพิเศษด้วย

Lesley Cobbs เป็นผู้สนับสนุนการให้คำปรึกษาที่ Nuçi's Space เธอแนะนำว่า ควรรู้ว่าจะขอความช่วยเหลือได้ที่ไหนก่อนที่จะต้องการความช่วยเหลือนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีอาการป่วยทางจิตและแน่นอนก่อนที่จะไปทัวร์คอนเสิร์ต "เกือบทุกรัฐจะมีสายด่วนวิกฤตสุขภาพจิต ค้นหาหมายเลขสำหรับพื้นที่ของคุณในขณะที่คุณมีสภาพจิตที่ปกติ และเมื่อคุณอยู่ในสภาพจิตที่ไม่ปกติ คุณจะมีหมายเลขนั้นพร้อมใช้" เธอให้คำแนะนำ

ดูแลตัวเอง

ศิลปินหลายคนมีความสุขที่สุดขณะออกทัวร์ ซึ่งอาจเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ได้ทำในสิ่งที่คุณรักทุกคืน การแสดงสดยังเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับนักดนตรีมืออาชีพจำนวนมาก แต่ตารางงานที่หนักหน่วงอาจทำให้เหนื่อยล้า และนั่นอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต Courtney เจอปัญหานี้บ่อยๆ กับลูกค้า "ธรรมชาติของอุตสาหกรรมนี้ คือ [นักดนตรี] ต้องออกทัวร์อยู่ตลอดเวลา นิสัยการนอนหลับมักจะเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมการกินก็ย่ำแย่ ไม่ออกกำลังกาย และทักษะในการรับมือกับปัญหาที่เคยมีในเวลาปกติอาจจะใช้ไม่ได้ในระหว่างออกทัวร์" เธออธิบาย สำหรับผู้ที่ต้องรับมือกับภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลอยู่แล้ว การนอนน้อยหรือไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพออาจทำให้แย่ลงได้

นอกเหนือจากการเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว Courtney ยังเป็นนักดนตรีที่ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าการดูแลตัวเองขณะเดินทางนั้นมีความท้าทายเพียงใด แต่เธอก็รู้ด้วยว่าการดูแลตัวเองนั้นสำคัญเพียงใด คำแนะนำของเธอคือการเน้นไปที่การเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพเมื่อใดก็ตามที่ทำได้ "ฉันจะไม่ไปเน้นกับสิ่งที่ไม่ควรกิน แต่จะพยายามบริโภคผักและผลไม้ อย่าคิดว่า 'ฉันกินพิซซ่าชิ้นนี้ไม่ได้' เมื่อไม่มีอย่างอื่นให้กิน แม้แต่ในปั๊มน้ำมันก็มักจะมีกล้วยหรือแอปเปิ้ลบางชนิดที่คุณหาได้" เธอกล่าว

เคล็ดลับการทัวร์คอนเสิร์ตอีกอย่างที่ Courtney เสนอคือการเก็บบันทึกประจำวันและหาวิธีอื่นๆ ในการสร้างพื้นที่ส่วนตัว อย่างน้อยก็ทางจิตใจ ให้เวลากับตัวเอง เพื่อรับมือกับความกดดันทางจิตใจจากการออกทัวร์ เธอแนะนำว่า "เมื่อจะต้องเดินทาง ให้หาหนังสือดีๆ และสิ่งที่ช่วยฝึกสมาธิติดตัว อะไรก็ได้ไม่ว่าจะนั่งนิ่งๆ สัก 10 นาทีและจดจ่ออยู่กับลมหายใจของคุณ หรือเดินเล่นและใส่ใจกับสิ่งรอบตัว"

Eline Van Audenaerde โค้ชแบบองค์รวมทำงานกับดีเจและนักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบริษัท The Unicorn Mothership ของเธอ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและรับมือกับความท้าทายในอาชีพ ลูกค้าอาจต้องเล่นในช่วงดึกหลังเที่ยงคืน แต่เธอพยายามปลูกฝังให้เขาเห็นคุณค่าของการสร้างกิจวัตรประจำวันที่ดีต่อสุขภาพ "ฉันแนะนำให้พวกเขาตื่นนอนขึ้นมาแม้ว่าจะนอนเพียงสองสามชั่วโมงก็ตาม พยายามทานอาหารเช้า และพยายามก้าวผ่านวันไปให้ได้ ทำอะไรสักอย่าง พบปะผู้คนบ้าง เพื่อที่พวกเขาจะได้มีกิจกรรมในระหว่างวันปกติ แล้วพยายามเข้านอนเร็วหรืองีบในตอนบ่าย" เธอกล่าว

กำหนดเป้าหมายของคุณ

Van Audenaerde จะบอกคุณว่าการรู้จักล้มแล้วลุกในอุตสาหกรรมดนตรีเป็นเรื่องของเป้าหมาย ความสามารถในการล้มแล้วลุกขึ้นยืนได้ใหม่ เธอยืนยันว่า "จริงๆ แล้วหมายถึงการตระหนักว่าคุณคือใครและเป้าหมายของคุณคืออะไร และที่สำคัญกว่านั้นคือคุณให้คุณค่ากับอะไรในชีวิต" ความชัดเจนนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิและตัดสินใจได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องกังวลใจแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ยากลำบากก็ตาม

เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายได้แล้ว การจัดการเวลาของคุณจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนั้นๆ Van Audenaerde เชื่อว่าสิ่งที่ใช้ได้จริง เช่นการกำหนดเวลาในสตูดิโอเพื่อทำงานเพลงและทำตามเวลานั้น หรือแม้แต่การสร้างสมดุลระหว่างดนตรีกับงานประจำวัน จะเป็นประโยชน์ "จัดการปฏิทินของคุณ" เธอแนะนำ "กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับปีนี้ คุณต้องการให้อัลบั้มนี้เสร็จเมื่อไหร่ คุณอยากแสดงสดสักกี่รอบ" ความชัดเจนว่าอะไรสำคัญสำหรับคุณและการปฏิบัติตามนั้น จะทำให้คุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นอีกด้วย

ทำใจให้สบาย

หากดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งในอุตสาหกรรมดนตรีที่ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของคุณ ให้พิจารณาหาแนวทางอื่นที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง Rachel Lightner ร้อง เขียนเพลง และเล่นกีตาร์ในวง Nervous Dater เธอมักจะร้องเพลงเกี่ยวกับการต่อสู้กับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าของตัวเอง ประสบการณ์ในช่วงแรกของเธอในฐานะนักดนตรีที่เป็นนอนไบนารีในแวดวงพังก์ที่มีแต่ผู้ชาย ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่มีตัวตนและถูกตีตราแบ่งแยกอย่างที่ "นักร้องนำหญิง" เจอกัน "ฉันทรมานมาก ฉันรู้สึกพ่ายแพ้ เหมือนว่าไม่มีวันได้รับการยอมรับ" เธอเล่า สิ่งที่ช่วยให้ Lightner พลิกผันเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้น คือการค้นหานักดนตรีที่หลากหลายที่เธอสนิทใจ และสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกด้วย

"เราเพิ่งจะเริ่มไปตามงานแสดงและค้นหาคนที่คิดว่าน่าจะคล้ายกันกับพวกเรา เราทุกคนต่างก็เป็นกลุ่มคนที่กำลังก้าวสู่ความสำเร็จ และเริ่มแสดงที่ร้านกาแฟในบรู๊คลินที่มีห้องใต้ดิน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของฉากเล็กๆ ของเรา การแสดงบนเวทีกับนักดนตรีผู้หญิงและชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม ทำให้สบายใจและสร้างแรงบันดาลใจ เราทุกคนให้กำลังใจกันมากและ [ไม่อย่างนั้น] คงทำในสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ได้" เธอกล่าวอย่างกระตือรือร้น การเปลี่ยนแนวทางในรูปแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะสำคัญต่อการอยู่รอดในฐานะศิลปินอย่างที่ Lightner ได้เรียนรู้มาเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนโลกหรืออย่างน้อยก็มุมที่คุณอยู่ได้

National Suicide Prevention Lifeline ในสหรัฐอเมริกา คือ 1-800-273-8255

Samaritans ในสหราชอาณาจักรติดต่อได้โดยกด 116 123

-Beverly Bryan