กลยุทธ์การใช้ Marquee: 6 วิธีในการโปรโมตผลงานใหม่ของคุณ

June 24, 2022

สำรวจวิธีต่างๆ ที่คุณสามารถใช้เครื่องมือแคมเปญของเราในการโปรโมตเพลงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนการมีส่วนร่วมโดยรวมหรือการเพิ่มยอดกลุ่มผู้ฟังที่เฉพาะเจาะจง

นับตั้งแต่เปิดตัว Marquee ที่เป็นเครื่องมือแนะนำผลงานใหม่แบบเต็มหน้าจอที่ได้รับการสนับสนุนให้แก่ผู้ฟังที่แสดงความสนใจในเพลงของคุณ Marquee ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจนกระทั่งในปัจจุบันมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้ตรงตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ของคุณ

  • ประเภทผลงาน : โปรโมตอัลบั้ม, EP หรือซิงเกิลใหม่
  • ระยะเวลา : เริ่มแคมเปญไม่เกิน 21 วันหลังปล่อยผลงาน
  • การกำหนดเป้าหมาย : เลือกผู้ฟังที่คุณเข้าถึงได้ หรือผู้ฟังที่หายไป คนที่เพิ่งเริ่มสนใจเมื่อเร็วๆ นี้ รวมทั้งผู้ฟังทั่วไป
  • พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ : เข้าถึงผู้ฟังได้มากกว่า 10 ประเทศ รวมถึงออสเตรีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

ศิลปินน้อยใหญ่ต่างใช้ Marquee เพื่อเพิ่มยอดสตรีมให้ผลงานใหม่ของตัวเอง ผู้ฟังที่เห็น Marquee มีแนวโน้มจะบันทึกแทร็กจากผลงานที่โปรโมตเพื่อไว้สตรีมในอนาคตเพิ่มขึ้นสองเท่าโดยเฉลี่ย และ Marquee ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องผลงานใหม่เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ฟังที่คลิกดู Marquee มีแนวโน้มจะเข้าไปสตรีมผลงานเก่าเพิ่มขึ้นสามเท่าโดยเฉลี่ยอีกด้วย

มาดูกันให้ชัดๆ กับหกวิธีที่ศิลปินใช้ Marquee เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับผลงานใหม่ที่พบได้บ่อย ซึ่งประกอบด้วยการเพิ่มจำนวนการมีส่วนร่วมโดยรวม ( กลยุทธ์การมีส่วนร่วมกับแคมเปญ) และการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากผู้ฟังในส่วนที่เฉพาะเจาะจง ( กลยุทธ์การพัฒนาฐานแฟนเพลง) รวมทั้งเรียนรู้วิธีวัดผลความสำเร็จของแต่ละเป้าหมาย

กลยุทธ์การมีส่วนร่วมกับแคมเปญ

1. โปรโมตอัลบั้มและ EP โดยการสร้างความสนใจ

ดึงดูดความสนใจทันทีที่คุณปล่อยเพลงใหม่โดยการเริ่มใช้ Marquee ตั้งแต่วันปล่อยผลงาน เนื่องจาก Marquee จะแสดงผลในเวลาเที่ยงคืนของวันที่เริ่มแคมเปญ คุณจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะฟังเพลงของคุณมากที่สุดได้แบบอลังการ

  • การกำหนดเป้าหมาย : ผู้ฟังที่คุณเข้าถึงได้
  • วันที่เริ่มต้น : วันปล่อยผลงาน
  • กรณีศึกษา : ทีมงานของ Wolf Alice หันมาใช้ Marquee ในการเพิ่มจำนวนการมีส่วนร่วมให้กับอัลบั้มล่าสุดที่มีชื่อว่า Blue Weekend โดยเริ่มแคมเปญในวันปล่อยผลงาน ผลคือยอดสตรีมต่อผู้ฟังเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน อ่านเพิ่มเติมที่นี่

2. กระจายข่าวก่อนออกซิงเกิลใหม่ให้รู้กันทั่ว

ใช้ Marquee เพื่อโปรโมตหลายๆ ซิงเกิลก่อนปล่อยอัลบั้มเต็ม การกำหนดเป้าหมายในช่วงที่ปล่อยผลงานใหม่ไปยังผู้ฟังที่ให้ความสนใจเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่ฟังเพลงของคุณในช่วง 28 วันที่ผ่านมา จะช่วยเพิ่มกระแสก่อนที่คุณจะปล่อยอัลบั้มเต็ม

  • การกำหนดเป้าหมาย : ผู้ฟังที่ให้ความสนใจเมื่อเร็วๆ นี้
  • วันที่เริ่มต้น : ไม่เกินสี่วันนับตั้งแต่วันปล่อยผลงาน
  • กรณีศึกษา : bbno$ สร้างกระแสให้กับเพลง “Lalala” ที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองในปี 2019 ด้วยการใช้ Marquee โปรโมตซิงเกิลสามรายการก่อนเข็นอัลบั้ม Eat Ya Veggies ออกมาในปี 2021 ทำให้มียอดสตรีมที่ผู้ใช้เป็นคนเลือกเองเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ก่อนการเปิดตัวผลงานใหม่ อ่านเพิ่มเติมที่นี่

3. เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การเปิดตัวในระดับนานาชาติ

คุณสามารถเผยแพร่ผลงานใหม่ได้ทั่วโลกโดยใช้ข้อมูลผู้ฟังจาก Spotify for Artists เพื่อกำหนดประเทศหลักๆ ที่ต้องการทำตลาด จากนั้นจึงกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ฟังที่เหมาะสมจากประเทศที่สามารถใช้ Marquee ได้มากกว่าสิบประเทศ การกำหนดวันเริ่มต้นแคมเปญให้เหลื่อมกันจะช่วยคงกระแสเอาไว้ และดึงดูดกลุ่มผู้ฟังที่ยังไม่เห็นผลงานในช่วงสัปดาห์ที่ปล่อยออกมา

  • การกำหนดเป้าหมาย : หลายประเทศ
  • วันที่เริ่มต้น : กำหนดเวลาให้เหลื่อมกันในแต่ละประเทศ
  • กรณีศึกษา : girl in red ศิลปินจาก Spotify RADAR ใช้แคมเปญ Marquee ในหลายประเทศโดยกำหนดเวลาให้เหลื่อมกันเพื่อช่วยให้ผลงานของตนคงกระแสไว้ได้อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ อ่านเพิ่มเติมที่นี่

กลยุทธ์การพัฒนาฐานแฟนเพลง

ผู้ฟังกลุ่มไหนที่คุณอยากเปลี่ยนให้เป็นแฟนตัวยง Marquee กำหนดเป้าหมายกลุ่มคนตามประวัติการฟังและเข้าถึงเฉพาะผู้ฟังที่ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาสตรีมผลงานใหม่

4. ดึงผู้ฟังที่หายไปกลับมา

เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่คุณไม่ได้ปล่อยเพลงใหม่มาสักระยะหรือต้องการกระตุ้นยอดสตรีมที่ผู้ใช้เป็นคนเลือกเอง

  • การกำหนดเป้าหมาย : ผู้ฟังที่หายไป
  • วันที่เริ่มต้น : ไม่เกินสองวันนับตั้งแต่วันปล่อยผลงาน
  • กรณีศึกษา : ในช่วงเวลาที่การระบาดครั้งใหญ่ทำให้แผนการโปรโมตอัลบั้มแรกของ Lecrae หยุดชะงักลง ศิลปินรายนี้และทีมงานจึงหันมาใช้ Marquee เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ฟังที่หายไปให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดการมีส่วนร่วมกลับคืนมาถึง 35% และมียอดการบันทึกและการเพิ่มไปยังเพลย์ลิสต์ถึง 80,000 ครั้ง อ่านเพิ่มเติมที่นี่

5. เปลี่ยนผู้ฟังทั่วๆ ไปให้กลายเป็นแฟนเพลง

หากเป้าหมายของคุณคือการใช้ Marquee เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับผู้ฟัง ให้กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มคนที่ฟังเพลงของคุณอยู่แล้วและมีแนวโน้มที่จะสตรีมอีก

  • การกำหนดเป้าหมาย : ผู้ฟังทั่วๆ ไป
  • วันที่เริ่มต้น : ไม่เกินสี่วันนับตั้งแต่วันปล่อยผลงาน
  • กรณีศึกษา : หลังจากที่เพลงของ Beach House ในปี 2015 ที่มีชื่อว่า “Space Song” เกิดเป็นไวรัลอย่างไม่คาดฝันในปีที่แล้ว ศิลปินกลุ่มนี้ก็มีฐานแฟนเพลงใหม่ๆ เพิ่มขึ้นซึ่งมาจากการมีส่วนร่วมกับ Marquee ที่กระตุ้นให้ผู้ฟังทั่วๆ ไป 24% บันทึกแทร็กจากอัลบั้ม และอีก 20% สตรีมเพลงจากแคตตาล็อกของศิลปิน อ่านเพิ่มเติมที่นี่

6. เจาะกลุ่มผู้ฟังหลังปล่อยผลงาน

เนื่องจากการกำหนดเป้าหมายของ Marquee นั้นไม่รวมผู้ฟังที่ตั้งใจสตรีมเพลงใหม่ของคุณอยู่แล้ว ดังนั้นให้เริ่ม Marquee ในอีกไม่เกิน 20 วันต่อมาเพื่อเข้าถึงผู้ฟังที่อาจต้องการฟังเพลงของคุณแต่พลาดวันปล่อยผลงานไป

  • การกำหนดเป้าหมาย : ผู้ฟังที่คุณเข้าถึงได้
  • วันที่เริ่มต้น : 1 ถึง 2 สัปดาห์หลังวันปล่อยผลงาน
  • กรณีศึกษา : อ่านเกี่ยวกับวิธีที่ Kaskade ใช้ Marquee ในการโปรโมตซิงเกิล “Miles to Go” ในอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากปล่อยแทร็กนี้ออกมา เพื่อให้เข้าถึงผู้ฟังได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีแฟนเพลงของ Kaskade หรือ Ella Vos มากกว่า 20% บันทึกแทร็กนี้ไว้ฟัง อ่านเพิ่มเติมที่นี่

การวัดผลความสำเร็จ

1. กำหนดเมตริกที่สำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมายของคุณ

ความสำเร็จจะมีหน้าตาแตกต่างกันไปตามเป้าหมายโดยรวมของคุณ สำหรับกลยุทธ์การมีส่วนร่วมกับแคมเปญ (ข้อ 1, 2 และ 3 ข้างต้น) ให้ดูที่ยอดสตรีมต่อผู้ฟังและอัตราคอนเวอร์ชันของผู้ฟัง ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนที่เห็น Marquee และฟังผลงานที่โปรโมต สำหรับกลยุทธ์การพัฒนาฐานแฟนเพลง (ข้อ 4, 5 และ 6 ข้างต้น) ให้ดูที่อัตราความสนใจ ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของผู้ฟังที่บันทึกแทร็กจากผลงานที่โปรโมตหรือเพิ่มแทร็กนั้นไปยังเพลย์ลิสต์ ตลอดทั้งวิธีที่ผู้ฟังมีส่วนร่วมกับผลงานอื่นๆ ของคุณ

2. ดูผลลัพธ์ของคุณเมื่อมีการอัปเดตและ 14 วันหลังจากแคมเปญสิ้นสุดลง

หลังจากสิ้นสุดแคมเปญ Marquee แต่ละครั้ง คุณจะได้รับรายงานที่ระบุว่ากลุ่มคนที่เห็นแคมเปญมีผลตอบรับอย่างไรกับเพลงของคุณ คุณจะเริ่มเห็นเมตริกหลังจากที่แคมเปญผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่เริ่มต้นและอีก 14 วันหลังจากแคมเปญสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นเวลาที่เมตริกทั้งหมดได้รับการสรุปแล้ว

3. วัดผลเมตริกที่สำคัญ

การเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานจะช่วยให้คุณเข้าใจว่า Marquee มีประสิทธิภาพเพียงใด หากต้องการเปรียบเทียบกับ Marquee ครั้งก่อนหน้า ให้เข้าไปที่แดชบอร์ด Spotify for Artists ของคุณ คลิกที่แท็บแคมเปญ แล้วเลือก “ดาวน์โหลดผลลัพธ์” แดชบอร์ด Spotify for Artists ยังเป็นที่ที่คุณสามารถใช้เปรียบเทียบว่าผู้ฟังที่เห็น Marquee มีส่วนร่วมกับผลงานใหม่ของคุณอย่างไรโดยเทียบกับผู้ฟังทั้งหมดของคุณ จากแดชบอร์ด คุณสามารถดูหน้ารายละเอียดผลงานได้โดยไปที่แท็บเพลง คลิกที่ผลงาน จากนั้นคลิกที่ผลงานใหม่ของคุณ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ Marquee รวมถึงวิธีเริ่มต้นใช้งาน โปรดไปที่เว็บไซต์ Marquee ที่นี่

Spotify for Artists ช่วยคุณพัฒนาฐานแฟนที่คุณต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

แชร์เรื่องราวนี้