Dan Wilson จากวง Semisonic ว่าด้วยแรงบันดาลใจที่มาอย่างไม่คาดคิดและการรับฟังอย่างตั้งใจ

Ron Hart / September 6, 2022

Wilson อธิบายกลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ตนเองได้เรียนรู้ในการเปลี่ยนอุปสรรคทางดนตรีให้เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ “Closing Time" ไปจนถึงการแต่งเพลงร่วมกับ Adele และ Carole King

Dan Wilson ถือได้ว่าเป็นที่สุดของนักแต่งเพลงในบรรดานักแต่งเพลงมาหลายทศวรรษ ชายผู้นี้ก้าวเดินไปบนเส้นทางดนตรีด้วยความสามารถรอบด้านที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะในฐานะศิลปินเดี่ยว นักแต่งเพลงร่วมของ Adele, Taylor Swift และ John Legend หรือสมาชิกวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกอย่าง Semisonic และ Trip Shakespeare

ในบทสัมภาษณ์รายการ Songwriter Saturdays ที่จัดโดย Alyssa Cotsalas ก่อน "Dancing On The Moon" เพลงใหม่ล่าสุดของ Wilson จะออกมาให้ได้รับฟังกันนั้น Wilson ได้แสดงให้เห็นว่าต่อให้มีประสบการณ์มากเพียงใด ศิลปินและนักแต่งเพลงก็ควรเปิดใจรับสิ่งที่เข้ามาอย่างไม่คาดฝันและตั้งใจรับฟังจริงๆ อ่านต่อด้านล่างเพื่อดูว่า Wilson มีสุดยอดบทเรียนอะไรมาฝากเราบ้าง

สลับบทบาท  ครั้งแรกที่ร่วมงานกับ Adele "เธอเล่าไอเดียให้ผมฟังสองอย่าง แล้วหนึ่งในนั้นก็กลายมาเป็นเพลง '[Rumor Has It](https://open.spotify.com/track/2A73XBDBQgmdXO8VsXPWIs?si=dfba9309d4e24611)' ส่วนตอนต้นของเพลง '[Someone Like You](https://open.spotify.com/track/1zwMYTA5nlNjZxYrvBB2pV?si=157fc3fe19694691) ก็ได้มาจากอีกไอเดีย'...ตรงสามหรือสี่ท่อนแรก ดูแล้วต้องออกมาเพราะแน่นอน แล้ว Adele ก็เล่นริฟเปียโนวนซ้ำในช่วงเสียงเบส เราเลยพยายามแต่งเพลงโดยใช้ช่วงเสียงเบสนั้น จากนั้นเธอเปลี่ยนไปจับกีตาร์แล้วทำแบบเดียวกัน" Wilson กล่าว

แล้ว "ก็พูดขึ้นว่า 'Wilson คุณลองเล่นเปียโนด้วยดีไหม แบบนั้นน่าจะทำให้คิดอะไรออกมากขึ้นนะ'..ทีนี้พอเราสลับกัน เธอมาร้องส่วนผมมาเล่นเปียโน ทุกอย่างก็เริ่มไหลลื่นไปเอง"

ทิ้งตัวตนเพื่อค้นพบตัวตน

"เมื่อ 2-3 ปีก่อนผมได้พบกับ Liam Gallagher ซึ่งเป็นศิลปินที่ผมชื่นชมมากๆ และการพบกันครั้งนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับผมมากจริงๆ ตอนนั้นเขาชวนให้ผมลองแต่งเพลงส่งมาให้เขา ซึ่งผมตื่นเต้นมาก ประมาณสองสัปดาห์ต่อมา ผมก็คิดออกมาได้ห้าไอเดีย เลยรีบทำเดโมส่งไปให้ Liam ทางอีเมล" Wilson อธิบาย สุดท้ายแล้ว Liam ไม่ได้เลือกแทร็กเหล่านั้นไปเข้าห้องอัด แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ Wilson ได้ค้นพบคำตอบบางอย่าง "มันเหมือนเปิดประตูบานใหม่ กลายเป็นว่า เพลงพวกนี้หมือนเพลง Semisonic มากกว่าที่ผมแต่งมาหลายต่อหลายปีเสียอีก... ที่ผมค้นพบก็คือ สูตรการแต่งเพลงของ Semisonic คือทำเหมือนว่าตัวเองเป็น Liam นั่นเอง"

แรงบันดาลใจของเพลงฮิตอาจมาจากที่ที่เราไม่คาดคิด

Wilson เล่าถึงเพลงฮิตที่สุดของ Semisonic ให้ฟังว่า "ตอนแต่งเพลง 'Closing Time' เป็นช่วงที่ผมออกทัวร์ ไม่ใช่ทัวร์ตามโรงละครหรือเวทีใหญ่ๆ หรืออะไรแบบนั้น แต่เป็นร้านเล็กๆ มีบาร์เทนเดอร์ มีเวลาสั่งเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายก่อนปิดร้าน... เหมือนกับว่าผมทำงานในบาร์แล้วก็มีพรรคพวกเป็นพนักงานร้าน ผมมองเห็นภาพเลยว่า ผมดีใจสุุดๆ ที่บาร์เทนเดอร์และคนดูแลร้านทั่วประเทศจะใช้เพลงนี้ตอนปิดร้าน แล้วผมก็มีความคิดประหลาดๆ ว่าเพลงนี้จะต้องฮิตในหมู่พนักงานบาร์แน่ๆ และปกติพนักงานบาร์จะมีความฮิปทางดนตรีมากกว่าคนอื่นนะครับ ผมชอบนะถ้าเพลงวงผมจะได้เข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ [ที่สร้างโดย] พนักงานบาร์ ผมไม่คิดว่าคนทั่วไปจะชอบเพลงนี้เป็นพิเศษหรอก แค่คิดว่าแต่งเพลงให้เป็นของขวัญพรรคพวก อะไรประมาณนี้"

ศึกษาข้อมูลมาให้ดีเพื่อการร่วมงานในฝัน

ตอนที่ Wilson มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักร้องนักแต่งเพลงระดับตำนานอย่าง Carole King เขายอมรับว่า "Carole เหมือนจะดูออกว่าผมประหม่า ผมดีใจจนทำตัวไม่ถูกน่ะ.. อาจจะเป็นเพราะผมเลื่อมใสในตัวเธอมาก ทำให้ไม่กำหนดคอนเซ็ปต์อะไรให้ตายตัว เราก็แค่พยายามจะแต่งเพลงเจ๋งๆ ขึ้นมา"

แต่เมื่อ Wilson ใช้ความรู้อันลึกซึ้งที่มีเกี่ยวกับผลงานเพลงของ Carole เข้ามาช่วย งานก็เดินหน้าไปได้  

Wilson อธิบายว่า "ผมรู้เรื่องของเธออยู่นะ ผมรู้รายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับไอเดียทางดนตรีของเธอ ดังนั้นพอถึงจุดหนึ่งผมก็เล่นคอร์ดที่มีความเป็น Carole King ขึ้นมาทีละเล็กละน้อย... เธอหัวเราะและเข้าใจว่าผมกำลังทำอะไร และตกลงใช้คอร์ดนั้นเพราะเห็นว่าเหมาะกับท่อนนั้นของเพลง"

การฟังที่แท้จริงไม่ใช่การรอที่จะได้พูด 

Wilson เล่าเรื่องลูกสาวของเขาให้ฟังว่า "Coco อยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลา 11 เดือนและป่วยหนักมานาน Coco มีปัญหาด้านการฟังและมีความบกพร่องร้ายแรงด้านการประมวลคำพูด เธอรู้ว่าเราพูดอะไร และต้องใช้เวลานานมากกว่าจะพูดตอบออกมาได้... ผมได้เรียนรู้ที่จะไม่พยายามจำกัดการพูดด้วยการให้ตัวเลือก ทุกคนมักจะทำอย่างนี้ เริ่มจากเสนอสิ่งที่เป็นไปได้ว่าคุณจะพูด หากคุณพูดตะกุกตะกักหรือดูอารมณ์เสีย คนอื่นๆ ก็จะเริ่มถามว่า 'คุณหิวใช่ไหม ง่วงนอนหรือเปล่า ประหม่าใช่ไหม อยากไปข้างนอกไหม โกรธเหรอ ตื่นเต้นใช่ไหม' คนจะเริ่มเสนอสิ่งต่างๆ ซึ่งไปปิดกั้นความสามารถในการพูดเกือบทั้งหมดของคนคนนั้น ผม [มี] คนแบบนั้นอยู่ในชีวิต คนที่ต้องการการฟังในรูปแบบที่ต่างออกไป [และ] สิ่งนั้นเปลี่ยนให้ผมกลายเป็นคนที่สามารถอดทนรออะไรได้นานๆ ขณะที่ใครสักคนพยายามประมวลความคิดของตัวเองอยู่"

สำหรับ Wilson การฝึกอดทนด้วยความรักนี้ให้ผลดีเวลาทำงานในสตูดิโอด้วย Wilson กล่าวเสริมว่า "สิ่งนี้ช่วยได้ เพราะผมไม่รู้สึกว่าจะต้องเข้าไปควบคุมหรือรู้สึกอึดอัดเวลาที่เราไม่ได้ข้อสรุปอะไรเลย หรือหากคนๆ นั้นพยายามรวบรวมความคิดนานกว่าที่จะพูดออกมา ผมก็แค่รอ และผมคิดว่าสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงตัวผมไปในแง่ของการทำงานร่วมกัน"

Spotify for Artists ช่วยคุณพัฒนาฐานแฟนที่คุณต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

แชร์เรื่องราวนี้
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ดูเพิ่มเติม
กลยุทธ์การใช้ Marquee: 6 วิธีในการโปรโมตผลงานใหม่ของคุณสำรวจวิธีต่างๆ ที่คุณสามารถใช้เครื่องมือแคมเปญของเราในการโปรโมตเพลงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนการมีส่วนร่วมโดยรวมหรือการเพิ่มยอดกลุ่มผู้ฟังที่เฉพาะเจาะจง
วิธีที่ Magic City Hippies ใช้ Marquee, Canvas และ Discovery Mode แบบต่อเนื่องกันเพื่อเพิ่มฐานแฟนเพลงก่อนปล่อยอัลบั้มใหม่การใช้เครื่องมือทางการตลาดของ Spotify for Artists ของวงดนตรีจากไมอามีทำให้ผู้ฟังมีแนวโน้มที่จะสตรีมซิงเกิลก่อนปล่อยอัลบั้มเต็มถึงสี่เท่า และช่วยเพิ่มจำนวนผู้ฟังของวงขึ้นถึงสามเท่าในโหมดวิทยุและการเล่นอัตโนมัติก่อนที่อัลบั้มจะเปิดตัว
ขอแนะนำ In Focus: คู่มือฉบับใหม่ในการยกระดับอาชีพทางดนตรีของคุณเลือกจุดโฟกัสจากทั้งหมด 21 จุด ตั้งแต่การฝึกทักษะไปจนถึงความก้าวหน้าทางอาชีพ และรับคำแนะนำเชิงโต้ตอบ โดย In Focus ของเราจะนำเครื่องมือและทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาไว้ที่ปลายนิ้วของคุณ