เป้าหมายทางดนตรีเป็นไปได้ทุกรูปแบบและวิธีการ ตั้งแต่การดึงดูดแฟนใหม่ๆ ด้วยอัลบั้มเดบิวต์ไปจนถึงการสานสัมพันธ์กับผู้ฟังระยะยาวนอกเหนือจากการทัวร์ ชุดแคมเปญจึงมีบทบาทดังกล่าว

ด้วยเครื่องมือ เช่น การนำเสนอเพลงสำหรับเพลย์ลิสต์, Discovery Mode, Marquee และ Showcase ชุดแคมเปญออกแบบมาเพื่อช่วยคุณเปลี่ยนผู้ฟังให้เป็น "ผู้ฟังตัวยง" ได้ ซึ่งหมายถึงแฟนๆ ที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในช่วงเวลา 28 วันที่ผ่านมา โดยกลับมาฟังเพลงของคุณครั้งแล้วครั้งเล่า จากข้อมูล Fan Study ในปี 2023 พบว่าผู้ฟังตัวยงจำนวนมากกว่าสองในสามส่วนยังคงสตรีมเพลงของคุณอยู่แม้เวลาผ่านไปหกเดือน

ชุดแคมเปญช่วยสร้างและรักษาฐานแฟนพันธุ์แท้ของคุณ โดยออกแบบตามวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อให้ได้เป้าหมายผู้ฟังทั้งสามข้อ ได้แก่ การเพิ่มจำนวนผู้ฟัง การดึงผู้ฟังกลับมาใหม่ และการมีส่วนร่วม

เป้าหมายที่ 1: เพิ่มจำนวนผู้ฟังของคุณ

การนำผู้ฟังหน้าใหม่เข้ามาในวงโคจรเสียงเพลงของคุณคือเป้าหมายแรกในเส้นทางของแฟนเพลง ชุดแคมเปญช่วยเชื่อมต่อเสียงเพลงของคุณเข้ากับผู้ที่มีโอกาสกลายเป็นผู้ฟังที่เหมาะสม และให้ทุกสิ่งดำเนินต่อไป

การใช้งาน: การนำเสนอเพลงสำหรับเพลย์ลิสต์

ในปี 2024 ศิลปินจำนวน 74% ที่ถูกเพิ่มลงในเพลย์ลิสต์จากบรรณาธิการมีจำนวนผู้ฟังต่อเดือนน้อยกว่า 100,000 คน การนำเสนอเพลงสำหรับเพลย์ลิสต์เป็นเครื่องมือฟรีที่ศิลปินทุกรายและทุกระดับความนิยมจะใช้เพื่อปล่อยผลงานใหม่ให้ผู้ฟังได้ฟัง

• วิธีการทำงาน : ส่งแทร็กที่ยังไม่ได้เปิดตัวไปให้บรรณาธิการพิจารณาสำหรับเพลย์ลิสต์แบบคัดสรร เพื่อให้ผู้ฟังค้นพบเพลงใหม่ๆ ได้
• การวัดผล : ผู้ฟังใหม่
• เรื่องราวความสำเร็จ : เพลงของศิลปินชาวลาติน Jay Wheeler ที่มีชื่อว่า “TRAPPii,” อยู่ในเพลย์ลิสต์ Trap Land ของ Spotify ช่วงสร้างยอดสตรีมถึง 100,000 สตรีม

การใช้งาน: Discovery Mode

ในปี 2024 35% ของการค้นพบทั้งหมดบน Spotify มาจากรายการแนะนำส่วนบุคคลที่ใช้อัลกอริทึม ด้วย Discovery Mode ศิลปินในตอนนี้สามารถตัดสินใจได้ว่าจะนำเสนอเพลงไปยังผู้ฟังในบริบทเหล่านี้อย่างไร

• วิธีการทำงาน : เพิ่มการเข้าถึงเพลงของคุณผ่านมิกซ์ Spotify, โหมดวิทยุ และการเล่นอัตโนมัติ
• การวัดผล : การสตรีมและยอดผู้ฟังใหม่
• เรื่องราวความสำเร็จ : ศิลปินเพลงป็อป NERIAH มียอดผู้ฟังใหม่เกือบครึ่งล้านคนภายในสามเดือนก่อนที่จะเปิดตัวอัลบั้มเดบิวต์ — ซึ่งคิดเป็นเกือบ 25% ของผู้ฟังของเธอในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

การใช้งาน: Marquee และ Showcase

ตามค่าเฉลี่ยแล้ว การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าการรวมฟีเจอร์ Marquee และ Showcase เข้าด้วยกันจะสร้างผู้ฟังหน้าใหม่ที่ใช้งานอยู่เพิ่มขึ้น 40 เท่า ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าการใช้ฟีเจอร์ Marquee เพียงอย่างเดียว 5 เท่า

• วิธีการทำงาน : แนะนำเพลงให้กับผู้ฟังของคุณที่มีแนวโน้มสตรีมผลงานที่ได้รับการโปรโมตหลังจากดูแคมเปญ ถึงแม้ว่าผู้ฟังจะเพิ่งเคยฟังเพลงของคุณ
• เป้าหมาย : ผู้ฟังจากโปรแกรมที่ตั้งไว้และ/หรือผู้ที่มีโอกาสกลายเป็นผู้ฟัง
• การวัดผล : ผู้ฟังหน้าใหม่ที่ใช้งานอยู่และยอดผู้ฟังใหม่
• เรื่องราวความสำเร็จ : ผู้ฟังจำนวนเกือบครึ่งที่เข้าถึง Showcase ของศิลปินเพลง EDM William Black เพิ่งเคยฟังเพลงของศิลปินรายนี้

เป้าหมายที่ 2: ดึงดูดให้ผู้ฟังที่ไม่ได้สตรีมช่วงล่าสุดกลับมา

กลับไปมีส่วนร่วมกับผู้ฟังที่ผ่านมาเพื่อให้พวกเขายังคงฟังเพลงของคุณ หากขาดการมีส่วนร่วม ผู้ฟังจำนวนมากกว่าครึ่งในผู้ฟังที่เคยเจาะจงฟังเพลงของคุณมาก่อนจะหยุดสตรีมภายในสามเดือนโดยเฉลี่ย

การใช้งาน: Marquee และ Showcase

โดยเฉลี่ยแล้ว เราพบว่าผลงานใหม่ที่โปรโมตด้วย Marquee จะเพิ่มยอดผู้ฟังที่กลับมาใหม่ถึง 6 เท่า

• วิธีการทำงาน : เน้นย้ำผู้ฟังที่ไม่ได้สตรีมผลงานหรือแค็ตตาล็อกใหม่ของคุณ
• เป้าหมาย : ผู้ฟังที่เคยเจาะจงฟังเพลงของคุณมาก่อน
• การวัดผล : ผู้ฟังที่กลับมาใหม่
• เรื่องราวความสำเร็จ : ผู้ฟังที่ใช้งานมาก่อนกว่า 10% ที่ได้สตรีมซิงเกิลเพลงอินดี้ของ Goth Babe จากแคมเปญ Showcase ได้บันทึกเพลงไปยังคอลเลกชันหรือเพิ่มไปที่เพลย์ลิสต์ส่วนตัว และผู้ฟังเกือบ 20% ได้สตรีมผลงานอื่นๆ ของ Goth Babe

เป้าหมายที่ 3: สานสัมพันธ์กับแฟนๆ ที่ใช้งานอยู่ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม

ผู้ฟังที่มีส่วนร่วมมากที่สุดของคุณ หรือที่เรียกว่า “ผู้ฟังที่ใช้งานอยู่” ของคุณ ไม่ได้แค่สตรีมเพลงของคุณเพียงครั้งเดียว แต่พวกเขายังบันทึกเพลย์ลิสต์และเพิ่มแทร็ก รวมถึงกลับไปสตรีมครั้งแล้วครั้งเล่า และยังสนับสนุนคุณผ่านรายการสดและการซื้อสินค้า การสานสัมพันธ์แฟนคลับด้วยกลุ่มผู้ฟังอันทรงคุณค่าคือการลงทุนในระยะยาว

การใช้งาน: Discovery Mode

โดยเฉลี่ยแล้ว เราพบว่าศิลปินได้รับการบันทึกเพลงมากขึ้น +50% จำนวนการเพิ่มลงในเพลย์ลิสต์ +44% และการติดตาม +37% ภายในเดือนแรกหลังจากใช้งาน Discovery Mode

• วิธีการทำงาน : ขยายการเข้าถึงแฟนๆ ที่มีอยู่ของคุณและเพิ่มการดำเนินการ เช่น การบันทึกและการเพิ่มเพลย์ลิสต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจสูงจากผู้ฟังที่จะเล่นเพลงนั้นอีกครั้ง
• การวัดผล : จำนวนการสตรีม อัตราความสนใจ
• เรื่องราวความสำเร็จ : ในช่วงระยะเวลา 15 เดือนหลังจากเปิดใช้งาน Discovery Mode สำหรับแทร็ก 11 แทร็ก ผู้ฟังของศิลปินอาร์แอนด์บี thuy ได้บันทึกและเพิ่มเพลงไปยังเพลย์ลิสต์แล้วมากกว่า 200,000 ครั้ง

การใช้งาน: Marquee และ Showcase

โดยเฉลี่ยแล้ว เราพบว่าผลงานใหม่ที่โปรโมตด้วย Marquee จะเพิ่มผู้ฟังที่ช่วยเพิ่มยอดถึง 2 เท่า

• วิธีการทำงาน : เน้นย้ำไปที่ผู้ฟังที่มีส่วนร่วมมากที่สุดเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาเข้าสู่โลกของคุณได้มากขึ้น
• เป้าหมาย : ผู้ฟังที่ใช้งานอยู่
• การวัดผล : ผู้ฟังที่ช่วยเพิ่มยอด
• เรื่องราวความสำเร็จ : หลังจากผ่านไป 30 วัน ผู้ฟังที่ใช้งานอยู่ซึ่งได้รับชม Marquee ของศิลปินเพลงป็อป Jillian Rossi ได้สตรีมมากกว่าผู้ฟังประเภทเดียวกันที่ไม่ได้ดูแคมเปญถึง 30 เท่า

วิธีเริ่มต้นใช้งานเครื่องมือชุดแคมเปญ

ชุดแคมเปญพร้อมใช้งานในแท็บแคมเปญใน Spotify for Artists (เดสก์ท็อป) การนำเสนอเพลย์ลิสต์เปิดให้กับศิลปินทุกคน Discovery Mode สามารถใช้งานได้แล้วในตลาดมากกว่า 90 แห่ง ส่วน Showcase และ Marquee พร้อมใช้งานในตลาด 10 แห่ง และยังมีภูมิภาคและฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมตามมา

ผสานรวมเครื่องมือเหล่านี้ด้วยคลิป, Canvas และ Countdown Page เพื่อเพิ่มยอดเข้าถึงสูงสุดและเชื่อมต่อกับแฟนๆ ในวิธีที่สดใหม่และสร้างสรรค์

พร้อมเพิ่มยอดผลงานถัดไปของคุณแล้วใช่ไหม ไปที่แท็บแคมเปญและเริ่มต้นแคมเปญของคุณได้วันนี้