เจาะลึกเรื่องราวของ Julia Wolf: เรียกกระแสความนิยมให้กับ EP ใหม่ที่ชื่อว่า "Girls in Purgatory"
ในตอนล่าสุดของซีรีส์ "How They Made It" นักร้อง-นักแต่งเพลง Julia Wolf และทีมของเธอจะมาพูดคุยถึงวิธีใช้ Canvas, Marquee และเครื่องมืออื่นๆ ในการโปรโมตซิงเกิล "Falling in Love" เพื่อสร้างฐานผู้ฟังก่อนเปิดตัว EP ใหม่
Julia Wolf "ทำเพลงสำหรับเด็กสาวที่ไม่กล้าเอ่ยความในใจ" จากประสบการณ์ของเธอเอง ในฐานะเด็กขี้อายในครอบครัวชาวอิตาลีขนาดใหญ่ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหาที่ที่เหมาะกับตัวเธอและได้ค้นพบตัวเองผ่านเสียงดนตรี
ปัจจุบันศิลปินอิสระรายนี้มีจำนวนผู้ฟังต่อเดือนมากกว่า 300,000 คนบน Spotify จากการใช้ประสบการณ์ส่วนตัวมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลง และสานสัมพันธ์กับแฟนๆ ในแบบที่ไม่เหมือนใคร จริงใจ และเป็นตัวเองแบบ 100%
แต่กว่าจะถึงจุดนี้ได้ก็ต้องผ่านอะไรมามาก Wolf ได้อธิบายในตอนใหม่ของ ซีรีส์ How They Made It ของเราว่า "การไล่ตามดนตรีเป็นอาชีพนั้นต้องมีการลองผิดลองถูก รวมถึงได้พบกับทางตันมากมาย จริงๆ แล้วไม่ได้ง่ายอย่างที่ฉันเคยคิดไว้ ต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะมีเพลงที่ใช่ออกมา"
"มีการร่วมงานที่ล้มเหลวหลายครั้ง หลายคนบอกว่าฉันจุกจิกหยุมหยิม ทุกคนพยายามจะเปลี่ยนเพลงของฉันไปในรูปแบบที่ฉันคิดว่าสุดแสนจะธรรมดา"
Wolf นักร้องนักแต่งเพลงจากย่านควีนส์ นิวยอร์ก อธิบายว่าผลงานของเธอมีความเป็นฮิปฮอปผสมอินดี้ โดยใช้วิธีเล่าเรื่องแบบเน้นเนื้อเพลงอย่างที่เธอชอบในเพลงแร็ป มาผสมเข้ากับเสียงร้องที่มีความเป็นอินดี้โดยธรรมชาติของเธอ "ฉันชอบเพิ่มเลเยอร์ด้วยเสียงประสาน แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นเนื้อเพลง ฉันชอบเน้นที่เนื้อเพลง"
"ฉันรับรู้ได้อย่างรวดเร็วจากการทำอาชีพแต่งเพลงว่า ฉันจะเขียนได้เฉพาะสิ่งที่ตัวเองเคยผ่านมาเท่านั้น ฉันไม่สามารถเขียนเล่าประสบการณ์ของคนอื่นได้ เพราะตอนได้ลองทำ ฉันรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเอามากๆ" เพลงหนึ่งที่เธอแต่งมาจากเรื่องจริงคือเพลง "Falling in Love" แทร็กใหม่ที่เล่าถึงการออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนซึ่งมีเรื่องกวนใจเกิดขึ้น เพลงนี้เป็นซิงเกิลแรกที่เปิดตัวก่อน EP แรกที่มีชื่อว่า Girls in Purgatory จะตามออกมา ทีมงานจึงได้วางกลยุทธ์ในการเปิดตัวผลงานโดยใช้ข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกของ Spotify for Artists, Canvas และ Marquee เพื่อโปรโมตแทร็กนี้และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ฟังก่อนการเปิดตัวผลงานอย่างเต็มรูปแบบ
Wolf อธิบายว่าเธอและทีมงานใช้ข้อมูลของผู้ฟังเพื่อทำความเข้าใจว่าแฟนๆ ของเธอคือใคร ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนข้อความบนโซเชียลมีเดียของเธอให้เข้าถึงผู้หญิงได้มากขึ้นนั่นเอง "Spotify [for Artists] ช่วยให้ฉันเข้าใจมากขึ้นว่ากลุ่มเป้าหมายของฉันคือใคร เพราะในตอนแรก กลุ่มผู้ฟังส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ชายอยู่ แต่เมื่อเราเห็นอย่างนั้น ฉันก็เริ่มหันมาสนใจพูดคุยกับสาวๆ บนโซเชียลมีเดียมากกว่าเดิม แล้วเราก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ตอนนี้กลุ่มผู้ฟังที่เป็นผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าแล้ว ซึ่งเจ๋งมาก"
Joseph Pineda ผู้จัดการของเธอกล่าวเสริมว่า "[บน Spotify] เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เราไม่มีเมื่อ 5 หรือ 10 ปีที่แล้วได้ โดยเฉพาะกับศิลปินอิสระอย่าง Julia เรายิ่งจำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมือยิ่งกว่าที่เคยเพื่อพยายามฝ่าฟันและเรียกกระแสความนิยม" นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาหันมาใช้ Marquee ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับแนะนำผลงานใหม่แบบเต็มหน้าจอที่ได้รับการสนับสนุนให้กับผู้ฟัง Spotify ที่แสดงความสนใจในเพลงของศิลปิน
"ข้อดีของ Marquee คือแฟนๆ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลย เมื่อแฟนๆ เห็นเพลงใหม่ของเราอย่างเพลง 'Falling in Love' ก็จะสามารถกดเข้าไปฟังได้ทันทีที่มีการแจ้งเตือนว่าเพลงเปิดตัวแล้วนะ และคว้าความสนใจของแฟนๆ ไว้ได้ในพริบตา" Pineda อธิบาย
ผู้ฟังที่เห็นแคมเปญ Marquee ของเพลง "Falling in Love" ซึ่งเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2021 เข้าไปสตรีมเพลงนี้กันถึง 29% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานสำหรับแนวเพลงป็อปถึงสองเท่า แถมผู้ฟังมากกว่า 20% ยังบันทึกแทร็กลงในคอลเลกชันส่วนตัวอีกด้วย
"Falling in Love" ก็เหมือนกับเพลงส่วนใหญ่ของ Julia Wolf ที่มี Canvas ซึ่งเป็นภาพสั้นๆ ที่เล่นวนให้แฟนๆ ได้ดูขณะฟังเพลงของเธอ เธอสร้างสรรค์อาร์ตเวิร์กชิ้นนี้ด้วยตัวเอง และบอกว่าจะมุ่งมั่นทำสิ่งนี้ต่อไปตราบเท่าที่ทำได้ "สิ่งนี้เป็นการแสดงออกถึงตัวตนในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะฉันอยากให้หลายคนที่ได้เห็นอาร์ตเวิร์กนี้เข้าใจความเป็นตัวฉัน ฉันอยากให้คนที่เห็นรู้สึกเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งก็คือโลกของ Julia Wolf อาร์ตเวิร์กเป็นเหมือนภาพสะท้อนที่บ่งบอกว่าฉันเป็นใคร จึงมีความสำคัญพอๆ กับเพลง"
"Spotify Canvas ช่วยให้ฉันเพิ่มมิติหนึ่งอย่างให้กับเพลง เพราะ Canvas ไม่ได้เป็นแค่อาร์ตเวิร์ก แต่เป็นวิธีที่ทำให้ฉันประทับภาพอื่นๆ เข้าไปในความคิดของผู้คนได้อย่างอิสระ และช่วยให้พวกเขาเข้าใจ [เพลงมากยิ่งขึ้น]" Wolf อธิบาย "ฉันชอบเวลาเห็นแฟนๆ แชร์ Canvas ที่ฉันสร้าง เพราะการแชร์ออกไปจะดึงดูดให้คนอื่นๆ หันมาสนใจที่จะคลิกพร้อมกับคิดว่า 'ไหนดูซิ ภาพนี้มีเพลงแบบไหนรอให้ฟังอยู่นะ' กันมากขึ้น"
ในช่วงสามเดือนหลังจากปล่อยเพลง "Falling in Love" มีการบันทึกแทร็กนี้มากกว่า 20,000 ครั้ง และเพิ่มลงในเพลย์ลิสต์มากกว่า 25,000 รายการ ผู้ติดตาม Spotify ของ Wolf ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ส่งผลให้มีจำนวนผู้ฟังที่พร้อมรอฟัง EP เต็มของเธอที่ชื่อ Girls in Purgatory (Full Moon Edition) ซึ่งเปิดตัวในสัปดาห์นี้ (8 ธ.ค.) เพิ่มมากขึ้นด้วย
ดู How They Made It แบบเต็มตอนที่ด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกของ Julia Wolf จากนั้นคลิกที่นี่เพื่อลองดูทั้งซีรีส์
Spotify for Artists ช่วยคุณพัฒนาฐานแฟนที่คุณต้องการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย