Discovery Mode
พบกับแฟนเพลงกลุ่มใหม่ๆ
Discovery Mode เป็นเครื่องมือสำหรับศิลปินและนักการตลาดเพลงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณค้นพบผู้ฟังกลุ่มใหม่ๆ ในเวลาที่ต้องการ
เรียนรู้วิธีสร้างแคมเปญของคุณใน Spotify for Artistsผลักดันให้ผู้ฟังค้นพบแทร็กของคุณ
ศิลปินและค่ายเพลงระบุเพลงที่อยากโปรโมตด้วย Discovery Mode จากนั้นเราจะเพิ่มสัญญาณนั้นไปยังอัลกอริทึมที่กำหนดเซสชันการฟังส่วนบุคคล สัญญาณนี้จะเพิ่มโอกาสให้อัลกอริทึมแนะนำเพลงที่เลือกให้แก่ผู้ฟัง แต่ไม่ได้เป็นการรับประกันผลลัพธ์
แต่จะได้ผลก็ต่อเมื่อแฟนเพลงก็ชอบ เราจะรับรู้ได้เมื่อผู้ฟังไม่มีส่วนร่วมกับเพลงใดเพลงหนึ่ง รวมถึงเพลงที่อยู่ใน Discovery Mode และนำข้อมูลนี้มาเป็นปัจจัยในการพิจารณาว่าจะแนะนำเพลงอะไรให้กับผู้ฟังในอนาคต กุญแจสำคัญอยู่ที่ความคล้ายคลึงสอดคล้อง
มีสิทธิ์เลือกเพลงในส่วนการค้นพบที่ปรับเฉพาะบุคคล
ปัจจุบัน 33% ของการค้นพบทั้งหมดบน Spotify มาจากรายการแนะนำส่วนบุคคลที่ใช้อัลกอริทึม Discovery Mode ทำให้ศิลปินและทีมงานสามารถส่งสัญญาณได้ว่าแทร็กไหนที่พวกเขาให้ความสำคัญที่สุดในโหมดส่วนบุคคล 2 โหมด ได้แก่ โหมดวิทยุและเล่นอัตโนมัติ
สร้างฐานแฟนเพลงในที่ที่ผู้คนฟังเพลง
Discovery Mode ช่วยผลักดันการเติบโตของฐานแฟนเพลงในระยะยาวได้ แบบจำลองทางสถิติแสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ศิลปินจะพบว่าจำนวนการบันทึกสูงขึ้น 50% จำนวนการเพิ่มลงในเพลย์ลิสต์ของผู้ใช้สูงขึ้น 44% และยอดการติดตามสูงขึ้น 37% ในช่วงเดือนแรกที่ใช้ Discovery Mode
ค้นหาแฟนเพลงใหม่ๆ ในต่างประเทศ
ปัจจุบัน 58% ของการค้นพบศิลปินเป็นครั้งแรกจากแทร็กใน Discovery Mode ทั้งหมดมาจากผู้ฟังที่อยู่นอกประเทศบ้านเกิดของศิลปิน นอกจากนี้ โดยเฉลี่ยแล้วจะมีการสตรีมแทร็กจาก Discovery Mode ใน 100 ประเทศตลอดช่วงระยะเวลาของแคมเปญ
พร้อมให้ใช้งานแล้วมากกว่า 90 ประเทศใน Spotify for Artists
ศิลปินที่มีสิทธิ์ซึ่งเผยแพร่เพลงผ่านผู้จัดจำหน่ายที่เข้าร่วมสามารถใช้งาน Discovery Mode ได้ใน Spotify for Artists โดยตรง ส่วนค่ายเพลงยังเข้าใช้ Discovery Mode ผ่านทีมคู่ค้าของเราได้เหมือนเดิม ดูวิดีโอเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
กำหนดลำดับความสำคัญของคุณ
Spotify ผลักดันให้เกิดการค้นพบศิลปินกว่า 1.6 หมื่นล้านคนทุกเดือน ซึ่งหมายถึง 1.6 หมื่นล้านครั้งต่อเดือนที่แฟนเพลงได้ฟังศิลปินที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนบน Spotify รายการแนะนำส่วนบุคคลใน Spotify นั้นเปิดรับสัญญาณหลายพันรายการ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับอิทธิพลจากศิลปินที่เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน
เราเชื่อว่าศิลปินควรมีส่วนผลักดันรายการแนะนำส่วนบุคคลของเราด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับอะไรและต้องการสื่อสารผลงานอย่างไร ศิลปินและค่ายเพลงสามารถเปิดใช้ Discovery Mode ได้เมื่อต้องการ และปิดใช้ หากไม่จำเป็น โดยสามารถควบคุมการตั้งค่าได้เสมอ
เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าอะไรสำคัญสำหรับศิลปินมากไปกว่าตัวศิลปินเอง ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่บ่งชี้ว่า Discovery Mode ช่วยให้ศิลปินบรรลุเป้าหมายของตนได้อย่างไร
เปิดใช้งานเมื่อเตรียมปล่อยผลงานใหม่
ใช้งาน Discovery Mode ร่วมกับกลยุทธ์การออกผลงานใหม่ของคุณ ใช้เพื่อแจ้งให้แฟนเพลงทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับแทร็กเด่น และกระตุ้นความสนใจในเพลงอื่นๆ ของคุณเมื่อผลงานใหม่ได้รับความนิยมแล้ว
เปิดใช้งานเพื่อสร้างช่วงเวลาสำคัญ
หากอยากให้เพลงเป็นกระแส มาแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เปิด Discovery Mode เพื่อเพิ่มการเข้าถึงเพลงของคุณในช่วงเวลานั้น วัฒนธรรมเปลี่ยนแปลงเร็วยิ่งกว่าแสง ดังนั้นเราจึงออกแบบ Discovery Mode มาเพื่อช่วยให้คุณทำการตัดสินใจได้อย่างว่องไว
เปิดใช้เพื่อกระตุ้นความสนใจของแฟนๆ
Discovery Mode สามารถช่วยให้เพลงต่างๆ ของศิลปินระดับตำนานกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเพื่อสนับสนุนการกลับมารวมตัวออกทัวร์คอนเสิร์ตหรือการรวมเพลงใหม่ ผลงานของคุณมีโอกาสได้รับความนิยมจากผู้ฟังอีกครั้ง
เปิดใช้งานเพื่อฉลองเหตุการณ์สำคัญ
เมื่อฉลองช่วงเวลาสำคัญในอาชีพ อย่าลืมเชิญชวนแฟนๆ ให้กลับมาฟังเพลงที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ เพียงเลือกเพลงที่อยากจะไฮไลต์เพื่อฉลองร่วมกับแฟนพันธุ์แท้และดึงดูดผู้ฟังกลุ่มใหม่ๆ
Discovery Mode ไม่เหมือนใคร ไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
เครื่องมือสากล
Discovery Mode เป็นเครื่องมือทำการตลาดให้กับเพลงที่ไม่เหมือนใคร ไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เครื่องมือนี้ช่วยให้ศิลปินในทุกช่วงของเส้นทางอาชีพจากทั่วทุกมุมโลกได้รับโอกาสเข้าถึงผู้ฟัง นี่คือเครื่องมือที่ใช้ได้ทั่วโลก รูปแบบการชำระเงินมีดังนี้
วิธีการใช้งาน
เมื่อศิลปินเปิดใช้ Discovery Mode ให้เพลงใดเพลงหนึ่ง Spotify จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชันจากยอดสตรีมของเพลงนั้นในแพลตฟอร์มส่วนที่มีการใช้งาน Discovery Mode ส่วนยอดสตรีมของเพลงเดียวกันที่มีการฟังในส่วนอื่นๆ จะไม่มีค่าคอมมิชชัน
ไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
ค่าคอมมิชชั่นคือเปอร์เซ็นต์ของรายได้ที่สร้างขึ้นจากยอดสตรีมเหล่านั้น เราจะหักค่าใช้จ่ายทางการตลาดนี้ออกจากใบแจ้งยอดในอนาคตของ Spotify คุณจึงไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเงินสดล่วงหน้า
จุดประกายแห่งการค้นพบ
ในการทดสอบ เราพบว่า Discovery Mode ช่วยจุดประกายให้ผู้ฟังสนใจเข้าไปดูแคตตาล็อกของศิลปินเพิ่มเติมซึ่งไม่มีค่าคอมมิชชัน ในช่วงเดือนแรกที่แทร็กเข้าร่วม Discovery Mode การสตรีมในโหมดวิทยุและเล่นอัตโนมัติมักจะทำให้ผู้ฟังเข้าไปสตรีมเพลงจากส่วนอื่นๆ ของ Spotify โดยตรงเช่นกัน
สิ่งที่คู่ค้าของเรากล่าวไว้
ศิลปินหลายพันราย รวมถึงค่ายเพลงและผู้จัดจำหน่ายต่างๆ ที่ได้ลองใช้ Discovery Mode ต่างให้การตอบรับที่ดี นี่คือสิ่งที่คู่ค้ากล่าวไว้
Discovery Mode ช่วยแนะนำเพลงของศิลปินของเราจากทั่วโลกให้ผู้ฟังที่ชอบมีส่วนร่วมและแฟนเพลงในอนาคตทั่วทุกมุมโลกได้รู้จักมากขึ้น ลูกค้าของเราตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่ได้และเลือก Discovery Mode มาเป็นกลยุทธ์ในการเปิดตัวผลงาน การนำ Discovery Mode มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำแคมเปญดิจิทัลแบบรอบด้านช่วยสร้างการเติบโตที่น่าประทับใจให้กับศิลปินของเรา ทั้งในด้านยอดสตรีมทั้งหมด จำนวนผู้ฟังต่อเดือน จำนวนผู้ติดตาม และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตนอกแพลตฟอร์มของ Spotify ด้วย
ประธานบริษัท Downtown Artist and Label Services
Believe สนับสนุน Spotify Discovery Mode เนื่องจากเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและเป็นประโยชน์สำหรับศิลปินอิสระ พลังในการสร้างความเท่าเทียมของโปรแกรมจะช่วยให้ชุมชนศิลปินในวงกว้างได้รับประโยชน์จากการโปรโมตเพลงของพวกเขา Discovery Mode ช่วยให้ศิลปินดังไปไกลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินจากดินแดนที่ในอดีตไม่สามารถเข้าถึงเวทีอุตสาหกรรมเพลงระดับโลกได้อย่างเท่าเทียมกัน และในการทดสอบช่วงแรกนี้ เราได้เห็นแล้วว่าโปรแกรมนี้ช่วยให้ศิลปินมากความสามารถจากทั่วโลกของ Believe และ TuneCore เข้าถึงผู้ฟังใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้นมาก
CEO ของ Believe
Discovery Mode ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการเข้าถึงของ Hunter [Hayes] ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาผลงานเพลงอย่างต่อเนื่อง ผมมองหาวิธีที่ทำให้แฟนเพลงกลุ่มใหม่ๆ รู้จักเพลงของ Hunter อยู่เสมอ แพลตฟอร์มนี้ทำให้เพลงของเขาเข้าถึงผู้ฟังกลุ่มใหม่ได้หลายแสนคน และมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตและการมีส่วนร่วมของผู้ฟังโดยรวม
Hunter Hayes ผู้จัดการ
ที่ TuneCore เราเชื่อว่าไม่มีเวลาไหนจะดีไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับศิลปินอิสระทั่วโลก เราเห็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ที่ความสำเร็จของศิลปินไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิทยุหรือสื่อกระแสหลักแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่ศิลปินคือคนควบคุมสิ่งนั้นเอง นั่นหมายถึงเครื่องมือทางการตลาดยังต้องพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของศิลปินในยุคดิจิทัล Discovery Mode ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อศิลปินที่อาจไม่มีงบประมาณในการจ้างเอเจนซีภายนอกและจ่ายเงินเพื่อปรากฏในสื่อเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผลงานเพลงตามคุณค่าของดนตรี ไม่ใช่แค่เพราะอิทธิพลจากภายนอก ถ้าเพลงมีคุณภาพ Discovery Mode จะช่วยให้ศิลปินค้นพบแฟนเพลงใหม่ๆ ได้
CEO ของ TuneCore
เมื่อเราพยายามเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ ในตลาดเพลงปัจจุบัน เรามักจะมองหาวิธีที่จะได้ผลลัพธ์จากผู้ฟังของศิลปินที่วัดผลได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่านช่วงโปรโมตที่สำคัญทั้งหมดในสัปดาห์แรกไปแล้ว จากบรรดาแคมเปญการตลาดโดยรวม เราพบว่า Discovery Mode เป็นหนึ่งในวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุดในการสร้างกลุ่มผู้ฟังและมอบผลลัพธ์ทางการเงินที่สำคัญให้กับศิลปินอิสระของเรา
หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลและเพื่อนที่ทำงาน
Discovery Mode เป็นเครื่องมือทางการตลาดสุดเจ๋งสำหรับผลงานเพลง ซึ่งไม่ต้องชำระเงินล่วงหน้า โดยช่วยให้ศิลปินอิสระในทุกระดับสามารถเข้าถึงแฟนเพลงกลุ่มใหม่ๆ ได้ในรูปแบบที่ต่างออกไป
CEO ของ DISTROKID
สำหรับผม Discovery Mode เป็นตัวพลิกเกม ซึ่งช่วยอัปเกรดวิธีการนำเสนอและค้นพบเพลงของผมบน Spotify ส่วนผลลัพธ์ก็น่าทึ่งมาก ผมสามารถเข้าถึงผู้ฟังใหม่ๆ บน Spotify ได้ผู้ติดตามเพิ่มมากมายบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงยอดสตรีมเพลงและขายตั๋วก็สูงขึ้นจนแทบไม่น่าเชื่อ คุ้มค่า 100%
ศิลปิน
ในฐานะศิลปินอิสระ การรู้ว่าจะใช้เงินทำการตลาดเพลงของคุณที่ไหนเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับการคิดหาเงินทุนให้พอ Spotify แก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยคุณสมบัติใหม่ ช่วยให้ผมเข้าถึงผู้คนที่ตรงเป้าหมายและเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นแฟนเพลงที่จะติดตามกันไปตลอด ผลลัพธ์ที่ได้ก็เห็นชัดเจนอยู่และผมขอแนะนำให้ทุกคนที่กำลังค้นหาวิธีการเข้าถึงแฟนเพลงใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแบบค่ายเพลงใหญ่ๆ ได้ลองใช้
ศิลปิน
เรื่องราวความสำเร็จ
เรื่องราวล่าสุดของเราที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณในการดำเนินงานด้านการตลาด
Discovery Mode is just the start of your campaign.
Campaign Kit gives you more tools to turn up your music and build lifelong fans.